Pokémon GO เติบโตได้ถึง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แม้จะเผชิญกับ COVID-19 มานานหลายเดือน โดยเป็นผลจากกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับเหล่าเทรนเนอร์ และการขาย Remote Raid Pass ที่ได้ผล
ข้อมูลนี้ได้รับการเปิดเผยจาก superdataresearch.com ระบุว่า Pokémon GO ยังคงเป็นผู้นำของเกมแนว Mobile AR โดยสามารถทำรายได้ในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นถึง 12% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แม้วิกฤต COVID-19 กำลังระบาดอย่างหนักอยู่ในทุกพื้นที่ทั่วโลกก็ตาม
โดยในช่วงแรกของการระบาด หลายฝ่ายก็ได้วิเคราะห์กันว่า เกมแนว Mobile AR น่าจะได้รับผลกระทบไปไม่น้อย เพราะผู้เล่นได้ถูกจำกัดพื้นที่ให้อยู่ได้แต่ในบ้าน ขัดกับวัตถุประสงค์ของเกมแนว AR ที่ต้องการให้ผู้เล่นได้ออกเดินทางไปยังพื้นที่ต่าง ๆ อย่างไรก็ดี Niantic ผู้พัฒนา Pokémon GO ก็ได้เลงเห็นในข้อนี้ และมาตรการต่าง ๆ มารับมือกับอย่างรวดเร็ว
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Pokémon GO ได้นำเสนอหลากหลายวิธีที่จะทำให้เหล่าเทรนเนอร์ยังคงสนุกได้แม้อยู่ในบ้าน ทั้งการลดราคาไอเทม, ลดระยะเวลาสำหรับฟักไข่, เปลี่ยนแปลงกิจกรรมต่าง ๆ ให้สามารถทำได้โดยไม่ต้องเดินไปหาเป้าหมายตามปรกติ เป็นต้น
และที่น่าจะเห็นผลมากที่สุด ก็คงจะเป็นการขาย Remote Raid Pass ที่สามารถทำให้ทุกคนสามารถสู้กับบอสได้จากระยะไกล ซึ่งเป็นไอเทมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงนี้ โดยที่ Niantic ได้วางขายไอเทมนี้มาตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ในราคา 100 PokeCoin (0.99 เหรียญฯ) ต่อชิ้น แต่ก็มีแบบแพคที่สามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่าด้วย
Pokémon GO ถือเป็นหนึ่งในเกมมือถือที่ทำรายได้มากที่สุดในโลกได้อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีที่เปิดให้บริการ โดยทำรายได้ 832 ล้านเหรียญฯ ในปี 2017 ที่เปิดตัว และขยับมาเป็น 900 ล้านเหรียญฯ ในปี 2019 ที่ผ่านมา สำหรับรายได้ในปีนี้จะปิดที่ตัวเลขไหน ก็ต้องติดตามกันต่อไป
ที่มา dfdnews.com