วันนี้ Ubisoft ได้แถลงว่า Anno 1800 อันเป็นภาคล่าสุดของเกมสร้างเมืองวางกลยุทธ์ซึ่งประสบความสำเร็จล้นหลาม ได้วางจำหน่ายพร้อมกันแล้วทั่วโลกบน Windows PC นอกไปจากนั้นแล้ว Ubisoft ยังได้เปิดเผยแผนการหลังวางจำหน่ายของ Anno 1800 ซึ่งรวมถึง Season Pass ที่มาพร้อม DLC หลัก 3 อย่างอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เล่น Anno 1800 ทุกรายจะได้เข้าถึงคอนเทนต์ฟรีรวมถึงโหมด Co-Op, แชลเลนจ์ของชุมชนผู้เล่นและการสร้างสถิติของเกม
ด้วยความที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมล้ำหน้าทางเทคโนโลยี, แผนสมคบคิดและความเป็นพันธมิตรที่แปรเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา จึงทำให้ศตวรรษที่ 19 ถือเป็นฉากหลังอันสมบูรณ์แบบสำหรับเกมเพลย์สุดคลาสสิกของ Anno เลยก็ว่าได้ เกมนี้พัฒนาโดย Ubisoft Blue Byte ซึ่ง Anno 1800 จะให้ผู้เล่นได้พบกับโอกาสอันนับไม่ถ้วนเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตนในฐานะผู้ปกครอง ผู้เล่นจะสามารถสร้างมหานครขนาดใหญ่, วางแผนเครือข่ายการขนส่งอันทรงประสิทธิภาพ, ลงหลักปักฐานในทวีปใหม่, ส่งทีมสำรวจไปทั่วโลกและกุมอำนาจเหนือคู่แข่งด้วยกลวิธีการทูต, การค้าหรือการสงคราม
Anno 1800 ผสมผสานองค์ประกอบที่หลายคนหลงรักมากว่า 20 ปีของประวัติศาสตร์ Anno ที่ส่งมอบประสบการณ์สร้างเมืองอันรุ่มรวย, รวมถึงโหมดแคมเปญเนื้อเรื่อง, โหมด sandbox ที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลาย และประสบการณ์แบบมัลติเพลเยอร์สุดคลาสสิกของ Anno ด้วย เกม Anno 1800 จะนำฟีเจอร์ที่เรียกร้องกันเข้ามาอย่างมากกลับมาอีกครั้ง อย่างเช่นคู่แข่ง AI แบบปัจเจก, สินค้าที่ส่งออกได้, แผนที่ซึ่งสร้างแบบสุ่ม, เกมเพลย์แบบหลายเซชชัน, ไอเทมและอีกมากมาย
เพื่อนำยุคสมัยอันสำคัญในประวัติศาสตร์ให้มีชีวิตอีกครั้ง Anno 1800 จะนำเสนอฟีเจอร์ใหม่มากมายเข้ามาในแฟรนไชส์นี้ โดยการออกสำรวจจะให้ผู้เล่นได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญไปทั่วโลกเพื่อแสวงหาเกียรติยศและทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ส่วนฟีเจอร์ workforce ใหม่จะทำให้คุณบริหารจัดการโรงงานของตนที่จะมีข้อเรียกร้องและสมจริงยิ่งกว่าที่เคยมีมา สุดท้ายคือผู้เล่นจะได้ตั้งรกรากในอเมริกาใต้ในยามที่เข้าครอบครองทองคำดำซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของยุคแห่งอุตสาหกรรม
ด้วย Season Pass* ของ Anno จะช่วยให้ผู้เล่นได้เข้าถึงการผจญภัยใหม่, ความท้าทายใหม่และอุปกรณ์ใหม่ที่จะปั้นแต่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมของตัวเองขึ้นมา Season Pass จะรวม DLC 3 ชุดดังต่อไปนี้ซึ่งจะมาให้เล่นตลอดปี 2562:
- The Sunken Treasure: ผู้เล่นจะได้ขยายอาณาจักรของตนออกไปด้วยเซชชันใหม่แถบยุโรปในชื่อ “Old World” และเกาะขนาดใหญ่ ที่ผู้เล่นต้องร่วมทางไปกับนักประดิษฐ์สุดพิลึกและสวมชุดประดาน้ำไปล่าสมบัติ
- Botanica: ใน DLC ตัวนี้ ผู้เล่นจะมีโอกาสได้เพิ่มความน่าดึงดูดของเมืองตนเองมากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งด้วย Botanical Garden ที่สามารถติดตั้งหรือถอนได้ง่ายดาย ช่วยให้ผู้เล่นได้รับไอเทมใหม่และรางวัลในยามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมารับชมสวนบุปผาชิ้นโบว์แดงแห่งนี้
- The Passage: ผู้เล่นจะได้บรรลุศาสตร์แห่งสายการผลิตใหม่และสินค้าใหม่ในยามที่ก่อสร้างป้อมค่ายในแถบ Arctic ณ Northwest Passage
- คอนเทนต์เพื่อความสวยงาม (ใช้ได้แล้ววันนี้): ผู้ที่มี Season Pass จะได้รับไอเทมปรับแต่งเพื่อความสวยงาม 3 ชิ้นทันทีซึ่งสามารถนำไปปรับแต่งโปรไฟล์ในโหมดมัลติเพลเยอร์ได้: ภาพ prisoner และโลโก้บริษัทแบบเอ็กซ์คลูซีฟ 2 แบบ
นอกจากนั้นแล้ว จะยังมีการอัปเดตเกมอย่างสม่ำเสมอให้ผู้เล่นทุกคนเล่นได้ฟรีหลังเกมวางจำหน่าย ซึ่งก็รวมถึง:
- โหมด Co-Op: ฟีเจอร์ซึ่งชุมชนผู้เล่นเรียกร้องกันเข้ามามากมายนี้จะถูกเพิ่มเข้ามาในอัปเดตในอนาคต ให้ผู้เล่นได้ร่วมทีมกับเพื่อน ๆ เพื่อร่วมกันควบคุมจักรวรรดิแห่งเดียวกันและช่วยกันวิวัฒนาการจักรวรรดิยิ่งขึ้นไปในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม
- แชลเลนจ์ของชุมชนผู้เล่น: ชุมชนชาว Anno จะได้รับแชลเลนจ์ตลอดเวลา ที่จะทำให้ทุกคนร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน เมื่อทำได้สำเร็จก็จะเป็นการปลดล็อกไอเทมปรับแต่งเพื่อความสวยงามใหม่ ๆ เช่น โลโก้บริษัทหรือแม้แต่สกินของผู้เล่นทุกคนที่ร่วมทำแชลเลนจ์
- การสร้างสถิติ: ผู้เล่นมากประสบการณ์ที่หลงใหลกับการเล่นอย่างทุ่มเทจะต้องชื่นชอบฟีเจอร์นี้แน่นอน เพราะการสร้างสถิตินี้จะช่วยให้ผู้เล่นได้รับข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับสายการผลิตของตนและผลผลิตที่ได้รับอีกด้วย
Anno 1800 และ Season Pass พร้อมให้ซื้อแล้วในแบบดิจิทัลบน Ubisoft Store และ Epic Games Store สำหรับบน Windows PC โดย Season Pass สามารถซื้อได้ในราคา 750 บาท ผู้เล่นที่สั่งจอง Anno 1800 ล่วงหน้าจะได้รับ Imperial Pack ที่ประกอบไปด้วยคอนเทนต์เสริมของเกม ส่วนผู้ที่ซื้อฉบับ Digital Deluxe และ Pioneers Editions จะได้เข้าถึงคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟรวมถึงตัวละคร Anarchist ด้วย**
เป็นเวลาเกินกว่าปีครึ่งแล้วที่ Anno 1800 ได้เชื้อเชิญให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมในการสรรค์สร้างและพัฒนาเกมโดยให้ฟีดแบ็คต่าง ๆ ผ่าน Anno Union จนถึงตอนนี้ได้มีการโพสต์บล็อกแล้วกว่า 160 ครั้ง, มีคอมเมนต์ 15,000 คอมเมนต์และยังมีการจัดแข่งในหมู่ชุมชนผู้เล่นไปแล้ว 5 รอบ ความร่วมมือในครั้งนี้ระหว่างผู้เล่นและสตูดิโอพัฒนาได้ช่วยให้ทีมงานสามารถปั้นแต่งเกมและเพิ่มเติมฟีเจอร์ที่ชุมชนร้องขอได้อย่างชัดเจนขึ้น
