ปี 2017 เราได้รู้จักกับ PLAYERUNKNOWN’S BATTLEGROUNDS ม้ามืดแห่งวงการที่สร้างกระแสเกมแนว Battle Royale ให้โด่งดังเป็นพลุแตกจนค่ายเกมอื่น ๆ นำเกมนี้เป็นแรงบันดาลใจไปสร้างโหมด Battle Royale ให้กับเกมตัวเอง จนตลาดมีเกมแนวนี้อยู่เต็มไปหมด แต่ผู้พัฒนา PUBG Corporation (Bluehole) ไม่เคยหวงกั้น เพราะตามจริงเขาก็ไม่ใช่เจ้าแรกที่สร้างเกมแนวนี้ขึ้นมา แต่การมาของเกม Fortnite Battle Royale ทำให้ PUBG Corporation ถึงกับไม่พอใจ
เพราะเจ้าของเกม Fortnite คือค่าย Epic Games นั้นเป็นเจ้าของ Unreal Engine 4 ที่ทาง PUBG Corporation เลือกใช้ Game Engine มาพัฒนาเกม PUBG โดยให้เหตุผลว่าเกรงว่าทาง Epic Games จะเอาเปรียบตนโดยการหวงกั้นศักยภาพบางอย่างของ Unreal Engine 4 จนทำให้ตนไม่สามารถพัฒนาเกมนี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้ง Fortnite ลอกระบบเกมของ PUBG มากไป แต่ถึง PUBG Corporation จะออกมาเรียกร้องแต่หลาย ๆ คนก็บอกให้ PUBG พัฒนาเกมของตนไปเสียดีกว่า อย่ามาปวดหัวกับเรื่องพวกนี้เลย
แม้ PUBG จะเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง กลายเป็นเกมที่มีผู้เล่นสูงสุดตลอดกาลบน Steam เคยขึ้นอันดับ 1 เกมที่มีผู้ชมสูงสุดบน Twitch แต่มาวันนี้ถึงคราวที่ PUBG Corporation จะต้องปวดหัวจริง ๆ เสียแล้ว เพราะ Fortnite กำลังมาแย่งผู้เล่นไปจาก PUBG มากขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบัน Fortnite สามารถไปแตะอันดับเกมที่มีผู้ชมสูงสุดบน Twitch และกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ Fortnite กลายเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของ PUBG ไปแล้ว
Fortnite เริ่มแซง PUBG เพราะอะไร ผู้เขียนจะลองยกเหตุผลมาให้อ่านสัก 3 ข้อ
1. Fortnite Battle Royale เปิดให้เล่นฟรี
ใครก็สามารถโหลดไปเล่นได้ทันที ทำให้มันง่ายที่จะเข้าถึง ขนาดผู้เขียนที่ซื้อ PUBG มาเล่น เมื่อ Fortnite เปิดให้เล่นฟรี ก็ยังไปลองดาวน์โหลดเกมมาเล่นเช่นกัน นอกจากนี้ในอนาคต Fortnite จะออกเวอร์ชันมือถือที่สามารถเล่นข้ามแพลตฟอร์มระหว่าง PC และ PS4 ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นเกม ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมากอีกแน่นอน
2. ฐานผู้เล่นเกม PUBG ส่วนใหญ่อยู่แค่บน PC
แม้จะมีลงให้กับคอนโซลอย่าง XboxOne แต่ตัวเกมในระยะแรกก็มีบัคมากจนผู้เล่นเอือมระอา นอกจากนี้เวอร์ชันมือถือที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานก็มีให้เล่นแค่ในประเทศจีนเท่านั้น
3. เหล่าสตรีมเมอร์ผู้ทรงอิทธิพลต่อวงการเกมเริ่มหันมาสตรีมเกม Fortnite มากขึ้น
เช่น DrDisrespect สตรีมเมอร์เกม PUBG ชื่อดัง ปัจจุบันเริ่มสตรีม Fortnite มากขึ้นเรื่อย ๆ จนจำนวนครั้งที่เล่น PUBG เริ่มลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด เหล่าแฟน ๆ ที่ติดตามชมก็ย่อมสนใจเกมที่สตรีมเมอร์นำมาเล่นจนต้องไปสรรหามาเล่นบ้างอย่างแน่นอน
หลังจากนี้คงต้องรอดูต่อไปว่า PUBG จะมีกลยุทธ์เช่นไรที่จะกลับมาซื้อใจผู้เล่นให้มาเล่นเกมมากขึ้น เพราะตามจริงแล้วการจะไปสู้เรื่องจำนวนผู้เล่นกับเกมที่เปิดให้เล่นฟรีก็เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่ง หรือท้ายที่สุดสองเกมนี้จะกลายเป็นคู่แข่งกันตลอดกาลที่โค่นกันไม่ลงก็เป็นไปได้