“ผมบอกตรง ๆ เลยว่าทุกอย่างมันดีขึ้นมากกว่าปีที่แล้วเยอะเลย” นี่คือคำพูดของพนักงาน Rockstar Games คนหนึ่ง ที่ออกมายืนยันว่านโยบายการทำงานของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น รวมถึงมีการยกตำแหน่งให้พนักงานรับจ้าง กลายเป็นลูกทีมของบริษัทเต็มตัว หลังมีการรายงานว่ามีการทำงานแบบ Crunch เกิดขึ้นระหว่างการสร้างเกมใหญ่
PCGamesN รายงานจากแหล่งข่าว Kotaku ว่าพนักงานรับจ้างของ Rockstar Lincoln หลายคน (ไม่ได้ระบุตัวเลข) ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นพนักงานแบบ Full-Time ซึ่งนโยบายเริ่มมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งผ่านมาไม่นาน
แหล่งข่าวเผยว่า นโยบายเลื่อนตำแหน่งจากพนักงานรับจ้างเป็นพนักงาน Rockstar เต็มตัว สืบเนื่องมาจากมีข่าวฉาวว่ามีวัฒนธรรมการทำงานแบบ Crunch เกิดขึ้น ระหว่างการพัฒนาเกม Red Dead Redemption 2 ซึ่งส่งผลกระทบต่อฝ่ายพนักงานรับจ้าง กับพนักงาน Tester (นักทดลองเกม) ที่ถูกใช้ทำงานหนักเกิน 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และมักไม่ได้ต่อสัญญาให้เป็นพนักงานประจำ
นอกจากนี้ กฎการทำงานภายใน Rockstar Lincoln ก็มีการลดความตึงเครียดลง รวมถึงมีการปรับเปลี่ยนตารางเวลา เพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และมีความสุขอีกด้วย
พวกเราทำงาน O.T. อย่างสมัครใจในช่วงเวลาสัปดาห์เดียว นับตั้งแต่ผมได้พูดคุยกับคุณครั้งล่าสุด ผมบอกตรง ๆ เลยว่าทุกอย่างมันดีขึ้นมากกว่าปีที่แล้วเยอะเลย
I'll dive into this more when I'm back from leave, but one tester told me in an email last week: "I can honestly say that things have absolutely been better since last year. We’ve only worked one weekend of overtime since we last spoke and it was entirely voluntary."
— Jason Schreier (@jasonschreier) August 6, 2019
– พนักงาน Rockstar คนหนึ่ง สัมภาษณ์กับ Jason Schreier แห่ง Kotaku
จัดว่าเป็นสัญญาที่ดีสำหรับวงการเกม ที่บริษัทเกม AAA อย่าง Rockstar Games เริ่มให้ความสำคัญต่อสุขภาพของพนักงานมากขึ้น หลังจากมีทีมงานเกมใหญ่ อย่างเช่น Epic Games กับ NetherRealm ที่ถูกเปิดโปงโดยคนในว่า มีวัฒนธรรมการทำงานแบบ Crunch ซึ่งกำลังเป็นประเด็นถกเถียงในอุตสาหกรรมอยู่ ณ ตอนนี้