กลับมาพบกันอีกครั้งสำหรับการพูดคุยกันหลัง Update ของ RoV ซึ่งเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ก็ได้มีการอัพเดทสำคัญครั้งหนึ่งของเกม นั่นคือการเพิ่มโหมด 10vs10 ซึ่งถือเป็นระบบใหม่ของเกม ที่จะช่วยทำให้ RoV กลายเป็นเกมที่มีความหลากหลายมากขึ้นนอกเหนือจากการเล่นเเบบปรกติทั่วไป เป็นรูปเเบบที่เกมอย่าง Fortnite ก็ใช้เเละทำสำเร็จมาเเล้วนั่นเอง
เเต่นอกจากโหมดใหม่เเล้ว เเน่นอนว่ามันก็ต้องตามมาด้วยการ Buff – Nerf เหล่าบรรดา Hero ต่าง ๆ เพื่อสร้างเกมที่สมดุลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เเละในเเพทช์นี้ก็มีหลายส่วนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการปรับปรุงของบรรดา Carry ตัวสำคัญหลายคน เพื่อรองรับระบบ Global Ban – Pick ที่จะนำมาใช้ในอนาคตอันใกล้นี้ (งาน AWC 2019)
เนื่องจากระบบ Global Ban – Pick ที่ทำให้ทุกทีมจะได้เล่น Hero เพียงตัวละ 1 ครั้งเท่านั้นในการเเข่ง ทำให้เมื่อเกมดำเนินเข้าสู่รอบที่ลึกขึ้น ก็จะมี Hero ที่ถูกเเบนจำนวนมาก (ตัวอย่าง เกมที่ 4 ทั้งสองทีมจะถูกเเบน Hero ฝ่ายละ 19 ตัว) เป็นเหตุให้ต้องมีการปรับปรุง Hero หลายตัวใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนเเปลงในครั้งนี้ โดยเฉพาะตำเเหน่ง Carry อันเป็นตำเเหน่งที่ถือว่าสำคัญเเต่มีจำนวนน้อย เมื่อเทียบกับตำเเหน่งอื่นๆ ซึ่งก็ได้ทยอยปรับมาเรื่อง ในเเพทช์ที่ผ่านๆ มา
- (อ่านเพิ่มเติม) RoV Season 10 คุยกันหลังอัพเดท บัพ-เนิร์ฟ เเละการเปลี่ยนเเปลงต่าง ๆ
- (อ่านเพิ่มเติม) RoV World Battle คุยกันหลังอัพเดท บัพ-เนิร์ฟ เเละการเปลี่ยนเเปลงต่าง ๆ
ฉะนั้น เรามาดูการเปลี่ยนเเปลงในเเพทช์นี้ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งราวนี้เราจะเริ่มจาก Hero Update กันก่อน เเล้วตามด้วยระบบ 10vs10 ที่ตามมาด้านล่าง ทั้งนี้ เราจะพูดถึงเฉพาะการเปลี่ยนเเปลงที่สำคัญที่น่าจับตามมอง โดยเพราะอย่างยิ่งสำหรับเหล่า Carry
Fennik
คนเเรกที่ต้องพูดถึงก็คือ Fennik เพราะมีการเปลี่ยนเเปลงชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นการ Rework เลยก็ว่าได้ เริ่มจาก Passive ที่ปรับระยะการโจมตีใหม่ ติด Critical ได้ เเละในตอนนี้สามารถโจมตีใส่ป้อมได้เเล้ว ทำให้ Fennik กลายเป็นสายทำลายป้อมอย่างเเท้จริงอีกตัวในที่สุด ทั้งนี้ ตัว Fennik ก็ถือว่าเป็น Hero ที่โจมตีได้ไกลที่สุดในเกมอยู่เเล้วเช่นกัน
Skill 1 จากเดิมที่เมื่อมาร์คเป้าหมายใดๆ ไว้เเล้ว ครบ 4 วินาทีจะระเบิดเเล้วสร้างความเสียหาย โดยสามารถโจมตีเพิ่มเติม (4 ครั้ง) เพื่อให้มันระเบิดเร็วขึ้นเเละเเรงขึ้น เเต่ในตอนนี้ หากโจมตีไม่ครบ 4 ครั้ง สกิลจะไม่ระเบิดอีกต่อไป เเต่จะ Stun เป้าหมายเเทน เเละหากโจมตีครบ 4 ครั้ง ก็จะสร้างความเสียหายเช่นเดิมเเละจะเพิ่มการ Reset Cool-down ของ Skill 2 ให้ด้วยหากเป้าหมายเป็น Hero
อีกทั้ง ในตอนที่ใช้ Skill นี้ จะสามารถกระโดดไปยังทิศทางที่เลือกได้เป็นช่วงสั้น ๆ ทำให้ตัว Fennik มีความคล่องตัวสูงขึ้นอีกพอสมควร (CD 7 วินาที) จะเห็นได้ว่าการอัพเดทนี้เป็นการเน้นไปที่การเพิ่มความคล่องตัวให้เขาตามรูปลักษณ์ที่เป็นกระรอกนั่นเอง
Skill 2 ตอนนี้สามารถใช้เพื่อเพิ่ม Stack ของ Skill 1 ได้ด้วย เเละ Ultimate ตอนนี้เพิ่มลูกเล่นให้สามารถเรียกกลับมาที่ตัวเองได้ด้วย เเลกกับการที่เอาจุดกลางของ Skill ออก ทำให้ตอนนี้ไม่ว่าจะโดนส่วนไหนของ Skill ก็จะได้รับความเสียหายที่เท่ากัน อีกทั้งยังสามารถติด Critical ได้อีกด้วย
ทั้งนี้ การปรับของ Fennik ทำให้เกิดการถกเถียงกันของเหล่า Main ของ Hero นี้ว่าทั้งหมดที่เห็นนั้น ดูรวม ๆ เป็นการบัพหรือเนิร์ฟกันเเน่ หลายคนกล่าวว่าเป็นการเนิร์ฟ เพราะดูเหมือนว่าความเสียหายที่ทำได้จะต่ำลง เเต่อีกหลายคนก็มองว่าเป็นการบัพ เพราะความสามารถในการดันป้อมที่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Fennik ก็ได้รับการเพิ่มเติมในเเพทช์นี้นั่นเอง
Violet
เรียกได้ว่านี่อาจเป็นการ Comeback สู่ตำเเหน่งยอด Carry เเห่งยุคอีกครั้งทำให้เธอคนนี้ เริ่ม Skill 1 ที่สามารถลด CD ได้ด้วย Skill เเละการโจมตีปรกติ เเละ Ultimate ที่ลด CD ลงเล็กน้อย เเลกกับ Skill 1 ที่พลังโจมตีเเละระยะที่ลดลงเล็กน้อย
เเต่สิ่งที่เป็นไฮไลท์จริงๆ ของการปรับครั้งนี้คือ ระยะโจมตีที่เพิ่มขึ้นอีก 0.25 เมตร เเม้จะดูน้อย เเต่นี้ก็มากพอที่จะทำให้เธอมีโอกาสโจมตีสำเร็จมากขึ้น เพราะ Carry ที่เน้นการโจมตีเช่นนี้ การมีระยะโจมตีที่ไกล ถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่าหากจะเเลกกับ Skill อื่น ๆ ที่จะโดนเนิร์ฟลงไป เชื่อว่าเราอาจจะได้เห็น Violet มากขึ้นในการเเข่งขันในอนาคตเเน่นอน
Capheny
รายละเอียดการปรับไม่มากไหร่ Skill 1 ถือว่าโดนปรับลงเล็กน้อย (ไม่ปรับ Factor ของ Skill) เเต่กับ Ultimate ที่มี CD มากขึ้นถึง 10 วินาที เเละยังมีพลังโจมตีที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ก็ทำให้ Skill อาจต้องมีการคิดให้ดีมากขึ้นก่อนใช้งาน อย่างไรก็ดี พลังโจมตีส่วนใหญ่ของเธอนั้นมากจาก Skill 1 เเละ Ultimate ที่มีระยะที่ไกลมาอยู่เเล้ว การปรับนี้ก็อาจส่งผลกระทบต่อการเล่นของเธอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถือเป็นการปรับเพื่อความเหมาะสมมากกว่า
Hayate
สำหรับ Carry สาย True damage ตัวนี้ การปรับ Skill 1 ที่ลดความเสียหายต่อ Creep ถือว่าเป็นการเปลี่ยนเเปลงที่ถือว่าใหญ่พอสมควร โชดดีที่ Ultimate ถูกเนิร์ฟเพียงความสามารถในช่วงต้นเกมลงเท่านั้น การปรับของ Hayate จึงอาจเรียกว่าเป็นการปรับเพื่อความเหมาะสม เเบบเดียวกับ Capheny
Florentino
เรียกได้ว่าโดนเนิร์ฟกันอย่างต่อเนื่อง เเต่ไม่ว่าจะครั้งไหน Florentino ก็ยังเป็น Hero ที่ทุกคน Ban อยู่ดี การปรับครั้งนี้ที่เอาการป้องกันสถานะออกจาก Passive อาจจะทำให้เขาดูอ่อนลงไปบ้าง เเละ Skill 2 ที่ถูกปรับความเเรงช่วงต้น-กลางเกมลงก็อาจดูเป็นการเนิร์ฟที่ดูหนักหน่วง เเต่เมื่อความเร็วคืออาวุธที่น่ากลัวที่สุดของ Hero นี้เเล้ว เชื่อว่าทุกคนก็ยังต้องเเบนเขาคนนี้ต่อไปเหมือนเดิมเเน่นอน
Ormarr
หากมองการปรับครั้งนี้เเล้ว เเน่นอนว่ามันคือการปรับเพื่อที่ Ormarr จะได้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่งในระบบ Global Ban นั่นเอง ที่ดูจะหนักหน่อยคือ Skill 1 ที่มี CD มากขึ้น 1 วินาทีในช่วงท้ายเกม เเต่ก็เเลกกับช่วงต้นเกมที่ CD เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 2 วินาที ส่วนที่เหลือเป็นการบัพที่ถือว่าน่าพอใจ เเต่ถึงอย่างไร Ormarr ก็น่าจะยังเป็นตัวเลือกหลัง ๆ ในการเล่นในระดับใหญ่ ๆ อยู่ดี เพราะในตอนนี้มี Fighter หลายคนที่ถือว่ากำลังมาเเรง อย่างเช่น Florentino, Riktor เเละ Veres เป็นต้น
Amily
คนสุดท้ายที่จะพูดถึงในวันนี้ เเม้จะเปลี่ยนเเปลงเพียงเล็กน้อยเเต่สำคัญมาก เพราะ Skill 1 ที่เปลี่ยนจากการคิดการ Heal จากค่า AD เป็น Max HP เเทน ทำให้ผู้เล่นจะต้องคิดดี ๆ ว่าต้องการเล่น Amily ไปทางไหน เพราะถ้าต้องการเป็น Fighter-Tank ก็สามารถทำได้เเล้วในตอนนี้ เเต่หากจะเล่นเป็น Fighter-AD ก็อาจต้องเสียในเรื่องการ Heal นี้ไป โชคดีที่ท่าไม้ตายอย่าง Enrage ที่ลด CD ลงถึง 10 วินาที ทำให้ไม่ว่าจะเล่นสายไหน Amily ก็จะเป็นเป็น Fighter ที่ดุดันมากขึ้นในเเพทช์นี้
โหมด 10vs10 “Mayhem”
มาถึงโหมดการเล่นใหม่ที่น่าสนใจนี้กันบ้าง โดยในเกมนี้ เราเเละเพื่อน 9 คน พร้อมศัตรู 10 คน จะร่วมสนามรบเดียวกันในเเผนที่ซึ่งถูกปรับปรุงมาใหม่สำหรับเล่นการเล่น 20 คนโดยเฉพาะ ถือเป็นอีกความสนุกที่ยอดเยี่ยมไม่เเพ้โหมด 5vs5 เลย เเละเป็นไปได้ว่า RoV อาจเปิดโหมดนี้ให้เล่นเเบบถาวรก็เป็นได้ หากได้รับกระเเสตอบรับที่ดีพอ
โดยโหมด 20 นี้ นอกจาก Map ที่เปลี่ยนไปเเล้ว ตัว Hero ก็มีความสามารถใหม่ ๆ มากขึ้นด้วย เช่น Mina ที่สามารถวาร์ปเข้าไปพร้อม Ultimate ได้ หรือธนูของ Yorn ที่ยิงได้พร้อมกัน 3 ลูกเป็นต้น ซึ่งจะเป็นความสามารถที่ต้องเลือกอัพตามคะเเนนที่มี โดยสามารถหาคะเเนนสำหรับอัพ Skill เหล่านี้ได้จากในเกมนั่นเอง
ในเกม ถือว่าเป็นการเล่นเพื่อความสนุกอย่างเเท้จริง เพราะการมีคนถึง 10 คนในทีม ทำให้รูปเเบบการเล่นของ MOBA ปรกติเปลี่ยนไปพอสมควร เราอาจมี Hero ครบทุกตำเเหน่งในเเต่ละเลน หรืออาจเจอศัตรูที่โถมเข้ามาพร้อมกัน 10 คนได้เช่นกัน ไม่เเน่ว่าหากมันไปได้สวย เราอาจได้เห็นการเเข่งในโหมด 10 คนนี้ในอนาคต ซึ่งมันจะกลายเป็นรายการใหม่ที่จะต้องสนุกไม่เเพ้การเเข่งปรกติอย่างเเน่นอน
สรุป Patch 10 vs 10
- Carry ทั้งหน้าเก่าเเละหน้าใหม่ถูกปรับ เพื่อรองรับการเล่นเเบบ Global Ban-Pick
- Fennik ถูกปรับปรุงมากที่สุดใน Patch นี้ ทำให้การเล่นเปลี่ยนไปพอสมควร
- โหมด 10vs10 ที่อาจเป็นอนาคตของเกมเเละการเเข่ง Esports ในภายภาคหน้า
- การ Ban – Pick ใน Rank game ไม่ได้รับจาก Patch นี้เท่าไหร่นัก เนื่องจากไม่มีการปรับที่สำคัญจนต้องเปลี่ยนวิธีการเล่น
เเน่นอนว่าก่อนจากกัน ก็จะขอทิ้งท้ายไว้ด้วย Hero ที่จะอัพเดทเข้ามาในอนาคต โดยจะเรียงลำดับตามความน่าเป็นที่อัพเดทเข้าเกมก่อน-หลัง สำหรับ RoV ก็กำลังจะมีงานใหญ่ นั่นก็คือ AWC 2019 ในช่วงอีกไม่กี่เดือนนี้ โดยทีม Toyota Diamond Cobra เเละ ahq Esports Club จะเป็นตัวเเทนของประเทศในการเเข่งครั้งนี้ อย่าลืมติดตามชม
Source : Garena RoV Thailand