เรียกว่าข่าวนี้กระทบต่อความมั่นคงของวงการเกมระดับโลกเลยทีเดียว เกี่ยวกับการประกาศนโยบายเกี่ยวกับการเก็บภาษีทางการค้าของสหรัฐอเมริกากับประเทศจีนที่แย่ลงเรื่อย ๆ จนเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกเป็นวงกว้าง และก็ลามมาถึงในวงการเกมด้วย ล่าสุดนี้ค่ายเกมยักษ์ใหญ่ทั้งสามอย่าง Sony, Microsoft และ Nintendo ได้ออกจดหมายเปิดผนึกร่วมกันส่งถึงสหรัฐผลเสียของการตั้งกำแพงภาษีที่มีต่ออุตสาหกรรมการผลิตเกมในอนาคต
โดยทางค่ายเกมทั้งสามประกอบไปด้วย Sony, Microsoft และ Nintendo ได้ร่วมมือกันร่างจดหมายเตือนถึงรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เป็นแถลงการณ์ความยาวเจ็ดหน้า เกี่ยวกับผลกระทบของการตั้งกำแพงภาษีการนำเข้าสินค้าของประเทศจีน ว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในวงการเกมอย่างไรบ้าง พร้อมกับอธิบายปัญหาที่เหล่าผู้ผลิตต้องเผชิญอยู่ในตอนนี้ โดยมีการลงนามรับรองจากผู้บริหารระดับสูงของทั้งสามบริษัทในสหรัฐอเมริกาอยู่ด้วย
ซึ่งใจความสำคัญที่อยู่ในเอกสารนั้น นอกจากจะชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ยังมีการกล่าวอีกว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อนโยบายตั้งกำแพงภาษีนี้มากที่สุดก็คือผู้ประกอบการเกี่ยวกับ Software ขนาดกลางและขนาดเล็กทั่วสหรัฐฯ และส่งผลกระทบแบบซับซ้อนจนอาจจะยากเกินแก้ไขได้
“ไม่เหมือนกับตลาด PC ที่เครื่องคอนโซลของพวกเรานั้นต้องการใช้งาน Hardware ที่เฉพาะเจาะจงและถูกออกแบบมาเพื่อให้ทำงานได้ดีที่สุดผ่านระบบ Software ที่เชื่อต่อเข้าสู่ระบบของแต่ละบริษัท เพื่อเข้าถึงระบบปฏิบัติการและการให้บริการต่าง ๆ ได้”
“เกมและการให้บริการถูกออกแบบมาเพื่อเครื่องคอนโซลเครื่องใดเครื่องหนึ่งอาจจะต้องถูกวางระบบการสร้างใหม่ ผ่านการทำงานที่เรียกว่า “Porting” เพื่อจัดการและทำงานให้กับเครื่องคอนโซลหรือ PC อีกเครื่อง และภาระค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะตกเป็นของผู้พัฒนาวิดีโอเกมในอนาคต”
ก่อนหน้านี้ทาง Nintendo ได้ถอนตัวจากตลาดในประเทศจีน เนื่องจากเกรงกลัวในนโยบายกำแพงภาษีของสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อพวกเขา จึงไม่น่าแปลกใจว่าทาง Sony และ Microsoft จะกังวลกับเรื่องนี้อย่างมาก ซึ่งในใจความสำคัญของเอกสารฉบับนี้ก็มีการแจ้งว่า การตัดการติดต่อการส่งสินค้าจากจีนอาจทำให้ราคาของสินค้าต่าง ๆ เพิ่มขึ้นไปอีกถึง 25% ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภคในสหรัฐฯอย่างไม่ต้องสงสัย
นโยบายการตั้งกำแพงภาษีสินค้าของจีนเริ่มขึ้นในช่วงที่ประธานาธิบดี Donald Trump เข้ามารับตำแหน่ง โดยส่อแววมาตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมปี 2018 ที่มีการประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศรวมไปถึงจีนอีกด้วย และลามมาถึงการขึ้นบัญชีดำทางการค้าของบริษัทในจีนอีกหลายเจ้ารวมไปถึง Huawei ที่เป็นประเด็นในช่วงเดือนที่ผ่านมานั่นเอง
ก็ต้องมาดูกันว่าท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯเกี่ยวกับเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรและแก้ไขอย่างไรบ้าง ที่แน่ ๆ ถ้าหากการขนส่งและสั่งซื้อสินค้าของเหล่าผู้พัฒนาถูกตัดขาดจากประเทศจีนจริง ๆ ผลกระทบอันใหญ่หลวงจะตกสู่วงการอย่างมากแน่นอน โดยสามารถอ่านเอกสารฉบับเต็มได้ ที่นี่
