แม้ว่าระบบ Loot Box และ Microtransactions จะสามารถช่วยเพิ่มกำไรให้ผู้พัฒนาหลายคน แต่สำหรับ Take-Two มันเป็นเพียงแค่เงินจำนวนหนึ่งเท่านั้น เพราะล่าสุด ท่านประธานได้กล่าวว่าเงินรายได้จากการขาย Loot Box “ไม่สำคัญสำหรับเรา”
PCGamesN รายงานบทสัมภาษณ์ระหว่าง PC Gamer กับ ประธาน CEO Take-Two Interactive คุณ Strauss Zelnick เผยว่ารายได้จากการขาย Loot Box ของบริษัท Take-Two สามารถทำกำไรรวมเพียง 3% ซึ่งสำหรับมุมมองของนักธุรกิจ ตัวเลขนั้นเป็นแค่เงินเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งเท่านั้น มันไม่ช่วยให้บริษัทก้าวหน้าขึ้นแต่อย่างใด เขากล่าวว่า…
ผมจะพูดตรงนี้เลยละกัน ระบบดังกล่าว (loot box) มีส่วนช่วยรับผิดชอบเพียงแค่ 3% ของรายได้สุทธิในปีงบประมาณที่ผ่านมา
ใช่ ! รายได้เหล่านั้น มันไม่สำคัญสำหรับเราเลย
คุณ Zelnick แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบ Loot Box ว่าเป็นระบบสมเหตุสมผล แต่ยอมรับว่ามันเป็นเพียงแค่ธุรกิจส่วนเล็กมากของบริษัท Take-Two เท่านั้น ฉะนั้นเขาจึงไม่กังวลเกี่ยวกับกฎหมายควบคุมระบบ Loot Box เพราะมันไม่ได้ทำเงินกำไรสูงเกินไปจนเหล่ารัฐบาลต้องจับตามอง
อ้างอิงจากแหล่งข่าวรายงานว่า Take- Two สามารถทำรายได้รวมทั้งหมด 2.929 ล้านเหรียญฯ ในปีงบประมาณที่ผ่านมา ถ้าหากคิดเป็น 3% ของรายได้ ก็เท่ากับ 88 ล้านเหรียญฯ ซึ่งสำหรับบริษัทเกมยักษ์ใหญ่แล้ว เงินเท่านั้นจัดว่ายังไม่เพียงพอต่อการพัฒนาโปรเจกต์ขนาดใหญ่
และน่าสนใจกว่านี้ Kotaku เคยรายงานว่า คุณ Zelnick จะได้รับเงินโบนัสมากขึ้น หากผู้เล่นจ่ายเงินภายในเกมอย่างประจำต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นระบบ Microtransactions หรือ Loot Box ก็ตาม ต้องบอกเลยว่ารวยทั้งบริษัทและท่านประธานจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเริ่มเสนอนโยบายว่าให้แบนระบบ Loot Box ที่มุ่งเน้นเจาะตลาดไปยังกลุ่มเด็ก ซึ่งแม้ว่าเกมส่วนใหญ่ของ Take-Two Interactive จะเหมาะสำหรับเด็กโตจนถึงผู้ใหญ่ แต่ผู้เขียนเชื่อว่าเขาต้องมีการวางแผนตลาดแบบใหม่ไว้แล้วอย่างแน่นอน