หลังจากที่ปล่อยให้แฟนๆ อารมณ์ค้างมาตั้งแต่ช่วงจบ TI 2019 ในที่สุด Valve ก็ได้ปล่อยแพทช์ใหม่ “The Outlander” ตามที่ได้สัญญาเอาไว้ว่าจะปล่อยในช่วงสิ้นปี และเมื่อได้เห็นรายละเอียดแล้ว ทำให้หลายคนถือว่านี้เป็นแพทช์ที่ “ยิ่งใหญ่สม” การรอคอยอย่างแท้จริง
โดยที่ The Outlander จะเปลี่ยนตัวเกมหลักของ Dota 2 ไปหลายส่วน ทั้งรูปแปบของแผนที่, Item, Hero และอื่นๆ ที่ยังไม่เคยมีในเกมมาก่อน โดยเฉพาะกับระบบ Item ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากและสำคัญที่สุด
แต่ก่อนอื่นนั้นขอพูดถึง Hero ใหม่ทั้ง 2 คนก่อน ได้แก่ Snapfire และ Void Spirit โดยมาในตำแหน่ง Support และ Carry ตามลำดับ (และสามารถเล่นได้หลายสาย ตามแบบของ Dota 2) สามารถชมความสามารถของทั้งคู่ได้ที่คลิปด้านล่างนี้ ส่วนใน Underlords ทั้งคู่ก็จะไปปรากฏตัวด้วยเช่นกัน โดย Snapfire จะเป็นเผ่า Dragon – Inventor
ส่วน Void Spirit จะมาพร้อมเผ่าใหม่อย่าง “Spirit” คู่กับ Warlock และจะยังอัปเดตพร้อมกับพี่น้องอีก 3 คนที่เหลือ อันได้แก่ Storm Spirit, Ember Spirit และ Earth Spirit ด้วยพร้อมๆ กัน
ในส่วนการอัปเดตตัวเกมของ Dota 2 นั้นเรียกได้ว่าแทบจะทำให้เกมกลายเป็น Dota 2.9 อย่างแท้จริง โดยสามารถสรุปเป็นข้อๆ แบบรวบรัดได้ดังนี้ (หรืออ่านฉบับเต็มได้ที่นี่)
- แผนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่หลายส่วน Side Shops ทั้งสองฝั่งหายไป แทนที่ด้วย Outposts แทน
- Outposts จะเป็นสิ่งก่อสร้างใหม่ในเกม สามารถยึดได้หลังจาก 10 นาทีผ่านไป เพื่อเพิ่ม Exp, Vision และเป็นที่สำหรับวาร์ป
- เพิ่ม Item ใหม่กว่า 62 ชิ้น และหลังจากนี้จะมี Item ดรอปจาก Creep ด้วย โดยแบ่งเป็น 5 ระดับ แยกดรอปตามเวลาในเกม
- Item จาก Creep ไม่สามารถขายได้ แต่เทรดได้ การดรอปใช้ระบบ Pseudo random
- หากดรอป Item ใน Tier ไหนแล้ว จะทำให้ชิ้นต่อไปใน Tier นั้นดรอปยากขึ้น
- Item บางอย่างเป็น Item ที่เคยมีในเกมมาก่อนหน้านี้ที่ถูกนำออกไป
- มี Courier ส่วนตัวฟรีสำหรับทุกคน มีความสามารถมากขึ้นตาม Level เช่นปัก Ward และใช้ Item ได้
- Ward ฟรี และมี Town Portal Scroll ฟรี 3 ใบตอนเริ่มเกม ปรับปรุงระบบจ่ายเงินเพื่อสาย Support
- Level Max เปลี่ยนจาก 25 เป็น 30 โดยเมื่อ Level 30 แล้ว Hero จะได้รับ Talent ทั้งหมดที่ตัวเองมี
- ปรับปรุงความสามารถของ Tower และ Fountain หลังจากนี้น้ำพุจะมีโอกาศโจมตีโดน 100% แบบหลบไม่ได้
- Buff-Nerf ทั้ง Hero และ Item หลายรายการ ชมรายละเอียดได้ที่นี่
แน่นอนว่าการอัปเดตนี้ย่อมทำให้เกิดกระแสมากมายหลายรูปแบบในชุมชนของผู้เล่น Dota 2 ทั้งชอบที่เกมมีการอัปเดตที่แปลกใหม่ มีรูปแบบการเล่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจ แต่อีกกระแสก็กล่าวว่านี้เป็นการลดทอนความเป็นเกม MOBA ลงมากจนเกินไป (โดยเฉพาะในเรื่องการ Drop item ที่เป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยากและพึ่งดวงอย่างเห็นได้ชัด) ทั้งนี้ก็ต้องคอยดูกันไปซักระยะว่าในภาพรวมนั้นแฟนๆ Dota 2 ถูกใจกับการอัปเดตนี้มากแค่ไหนอย่างไร