The Sinking City เกมผจญภัยสืบสวนสอบสวนที่พาผู้เล่นย้อนเวลากลับไปปี 1920 กับเรื่องราวลึกลับที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านชาวประมงที่ถูกน้ำท่วม ตัวเกมชูจุดเด่นด้วยเนื้อหาแนว Lovecraft พร้อมกับโลกในเกมขนาดใหญ่และระบบการสืบสวนที่ไม่เป็นเส้นตรง
ในแง่ของคะแนนรีวิวและกระแสตอบรับ The Sinking City ก็ถือว่าได้รับการตอบรับแบบกลาง ๆ ตัวเกมมีจุดเสียใหญ่อยู่หลายข้อแต่ก็ได้รับการชื่นชมในเรื่องของบรรยากาศ สภาพแวดล้อม รวมไปถึงเนื้อเรื่องหลัก หลังการวางจำหน่ายของตัวเกมในปี 2019 เรื่องราวของตัวเกม The Sinking City ก็ควรจะจบลงเพียงเท่านี้ แต่มหากาพย์ดราม่าการต่อสู้ที่ทะลุเนื้อหาในเกมระหว่างทีมพัฒนา Frogwares และผู้จัดจำหน่ายอย่าง Nacon ก็ได้เริ่มต้นขึ้น และข้อกล่าวหาของทั้งสองฝั่งก็ร้อนแรงทะลุสายฝนและบรรยากาศเย็นเยือกของเมืองจมน้ำกันเลยทีเดียว
จุดเริ่มต้นของดราม่า
ความขัดแย้งระหว่าง Frogwares และ Nacon เริ่มปรากฎตัวเป็นข่าวในวันที่ 25 สิงหาคม ปี 2020 หลังตัวเกม The Sinking City ถูกถอดออกจากร้านค้า Digital ทั้งในระบบ Steam, Epic Game Stores และบน Xbox One และ PlayStation 4 (ในขณะที่ตัวเกมบน Nintendo Switch ถูกวางจำหน่ายแบบไร้ปัญหาใด ๆ เพราะ Frogwares เป็นผู้จัดจำหน่ายด้วยตัวเอง)
ที่มาของการถอดเกมดังกล่าวมีขึ้นหลังทีมพัฒนา Frogwares ยื่นร้องเรียนไปยังร้านค้าขอฉีกสัญญาสิทธิในการจัดจำหน่ายของ Nacon (ที่ตอนนั้นใช้ชื่อว่า Bigben Interactice) และข้อกล่าวหายกแรกก็ถูกประกาศออกมาจากฝั่ง Frogwares
ทาง Frogwares ออกมาระบุ Nacon ทำผิดสัญญาที่ให้ไว้ ทั้งเรื่องการปัญหาการโฆษณาตัวเกม ความล่าช้าในการจ่ายเงินสนับสนุน การไม่ยอมแจ้งรายได้ที่แท้จริงของตัวเกมหลังวางจำหน่าย ฝั่ง Nacon ก็ออกมาโต้ตอบทันทีโดยยืนยันว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดของ Frogwares ไม่เป็นความจริงและการโต้เถียงของทั้งสองฝ่ายก็ดำเนินต่อไปท่ามกลางความสับสนของเหล่าเกมเมอร์และแฟน ๆ The Sinking City ในช่วงนั้น
สุดท้ายแล้วตัวเกมก็ถูกนำกลับเข้ามาวางขายบน Steam ในเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2021 หลังวางจำหน่ายได้วันเดียวฝั่ง Frogwares ก็ออกมาโต้ตอบทันควันพร้อมข้อกล่าวหาว่า Nacon ทำการ Pirate หรือ “โหลดเถื่อน” ตัวเกมมาจากที่อื่นแล้วเอามา Crack วางจำหน่ายบน Steam
ในตอนนั้น The Sinking City ที่กลับมาใหม่ถูกรีวิวในแง่ลบอย่างหนัก ผู้เล่นรายงานว่าตัวเกมฉบับนำมาขายใหม่นี้เป็น Version ที่เก่ากว่าเดิม พ่วงท้ายด้วยการที่ตัวเกมในตอนนั้นไม่รองรับทั้งระบบ achievements ระบบ cloud saves แถมไม่มี DLC ติดมากับตัวเกม
Frogwares ออกมาเรียกร้องให้แฟน ๆ อย่าซื้อตัวเกมใน Version ที่ถูกนำกลับมาวางขายบน Steam พร้อมทำการโพสวิดีโออธิบายเนื้อหาว่าตัวเกมมีการถูกดัดแปลงเนื้อหาบางส่วนทั้งไป เช่นการตัดโลโก้ Frogwares ในเกมทิ้งไป
แน่นอนว่า Nacom ก็ออกมาโต้กลับพร้อมปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาและยืนยันว่าพวกเขามีสิทธิในการจะวางจำหน่ายตัวเกมบน Steam พร้อมระบุว่าปัญหาทุกอย่างที่เกิด เป็นเพราะทาง Frogwares ปฎิเสธจะส่งมอบ Build ตัวเกมที่เสร็จสมบูรณ์ให้กับทาง Nacon ซึ่งถือเป็นการขัดขวางการทำธุรกิจและผิดสัญญาที่ทั้งสองบริษัทมีให้กัน ตัวเกมใน Version นี้ก็ถูกถอดออกจาก Steam ไปชั่วคราวหลัง Frogwares ยื่นข้อกล่าวหาละเมิดลิขสิทธิ ส่ง DMCA ให้กับ Steam
บทสรุปในตอนต้น
และสุดท้ายเรื่องราวจบลงที่ตรงไหน ? ทั้งสองบริษัทเข้าสู่การสอบสวนในศาลประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสุดท้ายแล้วศาลระบุว่า Frogwares เป็นฝ่ายผิดสัญญาจริงในขั้นต้น และการยื่นอุทธรณ์ก็ส่งผลให้การตัดสินว่า Frogwares มีความจำเป็นจะต้องส่ง Build สมบูรณ์แบบให้ Nacom เพื่อวางจำหน่ายบน Steam หรือเปล่านั้นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและน่าจะใช้เวลาหลายปีในการตัดสิน
ผลก็คือ Nacon ยังมีสิทธิในการจัดจำหน่ายตัวเกมใน Version อื่น ๆ ตามสัญญาเดิม ทำให้ปัจจุบัน Sinking City มีวางจำหน่ายบนทุกระบบทั้ง PlayStation, Xbox และแม้แต่ระบบ Steam ด้วยเช่นกัน ซึ่งสุดท้าย Nacon ก็มีการอัพเดทตัวเกมบน Steam ด้วยการเพิ่ม DLC และ Achievement เข้าไปในเกม
หรือพูดง่าย ๆ ก็คือคดีความบางส่วนก็ยังดำเนินต่อไปขณะที่ตัวเกมทั้งหมดก็ถูกนำมาวางขายใหม่ โดยศาลตัดสินให้ Nacon ยังมีสิทธิวางจำหน่ายตัวเกมต่อไปได้ในตอนนี้
เบื้องลึกเบื้องหลังของปัญหาที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามเรื่องราวดังกล่าวดูมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่น่าสนใจมากไปกว่าการผิดสัญญาเรื่องเงินเพียงอย่างเดียว หากเราย้อนกลับไปสอบสวนเรื่องราวในอดีตเราจะพบว่า “ดราม่า” เรื่องนี้มันมีที่มีที่ดูลึกซึ้งไม่ใช่น้อย
ปัญหาทั้งหมดต้องย้อนกลับไปในอดีตตอนที่ Frogwares ยังมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้จัดจำหน่ายอีกทีมนั่นก็คือทีม Focus Home Interactive ถ้าเราย้อนกลับไปดูจะเห็นว่าเกมดังของค่าย Frogwares อย่างซีรีส์ Sherlock Holmes นั้นจัดจำหน่ายโดย Focus Home Interactive มาโดยตลอด
ข้อมูลบ่งชี้ว่าตอนนั้น Frogwares เริ่มต้นพัฒนาเกมแนว Lovecraft ของตนเองอยู่และเข้าไปยื่นข้อเสนอให้กับ Focus Home Interactive เพื่อจัดจำหน่ายเกมของตัวเองเหมือนที่ผ่าน ๆ มา
แต่ความสัมพันธ์ของสองค่ายก็มามัวหมองหลังจาก Focus Home Interactive ไปดึงตัวทีมงาน Cyanide มาพัฒนาเกมแนว Lovecraft ของตัวเองซึ่งก็ออกมาเป็นผลงานเกม Call of Cthulhu
Frogwares เก็บไอเดียเกม Lovecraft ของตัวเองเอาไว้และเดินหน้าไปหาผู้จัดจำหน่ายรายใหม่ซึ่งก็ออกมาเป็น Nacon ที่เข้ามาให้ทุนในการพัฒนาตัวเกม
อย่างไรก็ตามรอยร้าวทั้งหมดและปัญหาทุกอย่างมาเกิดขึ้นในปี 2018 เมื่อ Nacon ดันไปซื้อทีม Cyanide เข้ามาอยู่ใต้สังกัดแบบเป็นทางการ
Frogwares น่าจะรู้สึกว่าตัวเองถูกหักหลังครั้งใหญ่และเกิดความไม่เชื่อใจในตัวผู้จัดจำหน่ายอย่าง Nacon ขึ้นมาในตอนนั้น หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็มีรายงานว่าการติดต่อสื่อสารระหว่าง Frogwares และ Nacon นั้นแทบจะถูกตัดขาดออกจากกัน
หลังจากนั้นดราม่าก็เป็นไปอย่างที่เรารู้กันดีตามช่วงต้นของบทความ ทั้งสองโต้เถียงกันไปมาในปัญหาที่เกิดขึ้น Frogwares โจมตีว่า Nacon จ่ายเงินไม่ครบ ใช้งบโฆษณาตัวเกมน้อยไป ไม่ยอมรายงานรายได้ของเกม ฝั่ง Nacon ก็บอกว่าข้อมูลที่ Frogwares ขอมันเป็นไปไม่ได้เพราะอาจถูกนำไปใช้โดยบริษัทคู่แข่ง และ Frogwares ก็แอบแบ่งเงินทุนของ Nacon เอาไปใช้ในการจัดจำหน่ายตัวเกมเองบน Nintendo Switch
ในส่วนของคดีความจะจบลงแบบไหนเราน่าจะต้องรอกันอีกนาน แต่บอกได้เลยว่า The Sinking City ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในเกมที่มี “ปัญหา” มากที่สุดระหว่างผู้พัฒนาและผู้จัดจำหน่ายและน่าจะเป็นบทเรียนชิ้นสำคัญของเหล่าคนในวงการวิดีโอเกมไปอีกนานแสนนานเลยทีเดียว