Frédérick Duguet ตำแหน่ง CFO ของ Ubisoft ได้ระบุในรายงานผลประกอบการรายได้ของบริษัทครั้งล่าสุดว่า Skull & Bones เกมผจญภัยโจรสลัด ได้มีการเปลี่ยนแนวทางใหม่ ให้กลายเป็นเกมเน้นระบบ Multiplayer เป็นอย่างแรก (Multiplayer-First) พร้อมคอนเฟิร์มว่าเกมดังกล่าวยังมีความคืบหน้าในการพัฒนาโปรเจกต์
“[Skull & Bones] เป็น IP เกมใหม่ที่มีแนวโน้มว่าจะมีประสิทธิภาพได้ หากมุ่งเน้นให้ตัวเกมมีระบบ Multiplayer ก่อนเป็นอย่างแรก เรามีการวางแผนมากมาย เพื่อให้เกมดังกล่าวมีคอนเทนต์ Multiplayer, CO-OP และการออกแบบโลกแฟนตาซีที่แข็งแกร่ง
แม้เกมดังกล่าวจะใช้เวลาพัฒนานานเกินกว่าที่เราตั้งเป้าหมายไว้มาก แต่ตอนนี้ พวกเรารู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นทิศทางของการกำกับศิลป์ และความคืบหน้าในการพัฒนาเกม ณ ตอนนี้” – Frédérick Duguet กล่าว
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงวันเปิดตัวเกมครั้งแรก Ubisoft อธิบายว่า Skull & Bones จะเป็นเกมผจญภัยที่ผู้เล่นสามารถสำรวจมหาสมุทรอินเดียได้ด้วยตัวคนเดียวผ่าน Singleplayer Campaign หรือ CO-OP กับเพื่อน ๆ
แต่อย่างไรก็ตาม เกมดังกล่าวมีการเลื่อนดีเลย์วันวางจำหน่ายหลายครั้ง จน Skull & Bones เป็นหนึ่งในผลงานของ Ubisoft ที่เผชิญหน้ากับปัญหา Development Hell
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2020 สื่อ VGC เคยรายงานว่า Skull & Bones มีการเปลี่ยนแนวทางใหม่ให้กลายเป็นเกม Live-Service ที่มีการอัปเดตเพิ่มคอนเทนต์ตลอดทุกช่วงเดือน และล่าสุด มีรายงานว่า Ubisoft Singapore ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมพัฒนาเกมหลักของ Skull & Bones กำลังถูกตรวจสอบ หลังโดนข้อกล่าวหาว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศ และการเลือกปฏิบัติเกิดขึ้นในองค์กร
แม้ Ubisoft ยืนยันว่าการพัฒนาเกม Skull & Bones ยังดำเนินต่อไป และมีกำหนดการวางจำหน่ายในช่วงปีงบประมาณถัดไป แต่เนื่องจากตัวเกมมีการเลื่อนดีเลย์หลายครั้ง ทำให้เราชาวเกมเมอร์ ยังตั้งข้อสงสัยว่าเกมดังกล่าวจะสามารถพัฒนาเสร็จสิ้น และออกวางจำหน่ายจริงได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องให้กาลเวลาเป็นตัวพิสูจน์เท่านั้น
ที่มา: VGC