ฝ่ายทีมงาน Ubisoft ออกมายืนยันว่า Rainbow Six Siege จะไม่ปล่อยเล่นแบบ Free-2-Play เพราะช่วยคัดกรองคุณภาพเกมเมอร์ให้ปราศจากพฤติกรรม Toxic และเชื่อว่าราคาเกมก็เป็นมิตรมากพอสำหรับผู้เล่นทุกคนอีกด้วย
อ้างอิงจาก Dailystar – คุณ Alexandre Remy ฝ่าย Brand Director ของเกม Rainbow Six Siege เผยว่าเกมดังกล่าวจะไม่มีทางเปลี่ยนจากการขายเกมราคาเต็ม สู่เกมเล่นฟรีหรือ Free-2-Play เพื่อดึงดูดผู้เล่นให้มากยิ่งขึ้น
คุณ Remy กล่าวสาเหตุเป็นเพราะว่า ปัจจุบัน เกม Rainbow Six Siege ยังคงสามารถเข้าถึงได้ทุกคนด้วยราคาเกมที่ไม่สูงมาก และคอนเทนต์ฟรีของเกมยังคงมีคุณค่ามากพอที่จะช่วยดึงดูดเกมเมอร์ให้สนใจเกมดังกล่าว
แน่นอนว่าพวกเราพยายามทุกหนทาง เพื่อให้เกมสามารถเข้าถึงทุกคนมากที่สุด
ผมเองก็ไม่ได้กังวลอะไรกับเรื่องแบบนี้เท่าไหร่นัก ทุกวันนี้ ราคาของเกม Siege ก็ถูกมาก และพร้อมด้วยการอัปเดตเนื้อหาที่รู้สึกมีคุณค่า สำหรับความคิดของเราแล้ว เราพยายามรักษาราคาเกมด้วยเหตุผลที่มากมาย
อีกหนึ่งในสาเหตุ คุณ Remy กล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริการแบบ Free-2-Play ว่าแม้จะช่วยดันยอดผู้เล่นสูงสุด แต่ก็แลกกับการกำเนิดเกมเมอร์พฤติกรรม Toxic ในระยะยาว และการวางจำหน่ายเกมด้วยราคาไม่ว่าจะถูกหรือแพง ก็สามารถช่วยคัดสรรคุณภาพผู้เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หนึ่งในนั้นคือ ระบบ Free-to-Play สามารถช่วยเพิ่มความดึงดูดให้ยอดผู้เล่นมีจำนวนมากก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเล่นเกมเพราะต้องการชัยชนะ แต่บางครั้งพวกเขาเลือกเล่นเกมนี้ เนื่องจากมันฟรี ซึ่งอาจส่งผลทำให้เกมผู้เล่นมีพฤติกรรม Toxic มากขึ้น
แม้ตัวเกมจะมีราคาถูก ก็สามารถช่วยเพิ่มเกราะป้องกันและคัดสรรผู้เล่นได้ สำหรับตัวเกมเมอร์ คุณจะถามกับตัวเองว่า “ฉันควรจ่ายเงิน 5 เหรียญฯ หรือไม่?” ซึ่งถ้าหากคุณคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่แน่วแน่หรือมั่นใจแล้ว ผมคิดว่านี้เป็นวิธีการที่ถูกต้องแล้ว
ช่วงปี 2018 ที่ผ่านมา ทีมงาน Ubisoft เริ่มมีนโยบายต่อต้านผู้เล่นที่มีพฤติกรรม Toxic ทุกรูปแบบอย่างจริงจัง ตั้งแต่ AFK, ก่อกวน, ฆ่าเพื่อนร่วมทีมแบบจงใจ หรือใช้คำพูดหยาบคายทุกชนิดด้วยการลงโทษแบนชั่วคราว ซึ่งเกมเมอร์บางส่วนไม่พอใจกับนโยบายดังกล่าวเป็นเพราะว่าเข้มงวดมากจนเกินไป แต่ทีมงาน Ubisoft ยืนยันว่าจะดำเนินกฎเกณฑ์นี้ต่อไป