Unity ประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเก็บค่าธรรมเนียมใหม่แล้ว หลังจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดกระแสวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักกับเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรมกับเหล่าผู้พัฒนาเกมอย่างมาก
โดยสำหรับเงื่อนไขการเก็บเงินแบบใหม่ที่ถูกปรับเปลี่ยน มีดังต่อไปนี้
- ผู้ที่ใช้ Unity Personal (แพ็คเกจเริ่มต้น) ไม่เสียค่าธรรมเนียม และไม่ต้องมีคำว่า “Made with Unity” ขึ้นมาในเกมอีก
- ปรับเพดานรายได้จาก 1 แสนเหรียญฯ เป็น 2 แสนเหรียญฯ (ถ้าเกินจากนี้ต้องใช้แพ็คเกจแพงขึ้น)
- ไม่ว่าจะเป็นเกมใดก็ตาม ถ้ารายได้ไม่ถึง 1 ล้านเหรียญฯ ต่อปี ไม่เสียค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น
- สำหรับแพ็คเกจ Pro กับ Enterprise, การเก็บค่าธรรมเนียมจะมีผลกับเกมที่ใช้ Unity LTS เวอร์ชันถัด ๆ ไปที่จะเริ่มออกในปี 2024 เท่านั้น (ไม่มีผลย้อนหลัง)
- เกมที่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพัฒนา ก็ไม่มีผลเช่นกัน
- ผู้พัฒนาที่เข้าข่ายถูกเก็บค่าธรรมเนียม เลือกได้ว่าจะจ่าย 2.5% จากรายได้ หรือคำนวณเอาจากยอด Engagement ของเกม โดยทั้งคู่ ผู้พัฒนาเป็นฝ่ายรายงานตัวเลขเอง
- ยอด Engagement, นับจากการที่ผู้เล่นเข้าเกมเป็นครั้งแรกเท่านั้น หรือก็คือนับแค่ 1 ครั้ง/1 คน/1 ร้านค้า ถ้าลบเกมแล้วติดตั้งใหม่จะไม่นับเพิ่ม
จากเงื่อนไขดังกล่าว ก็น่าจะทำให้รายเล็กมีพื้นที่หายใจหายคอกันมากขึ้นกว่าแบบแรก ทั้งนี้ต้องรอดูความคิดเห็นจากเหล่านักพัฒนาเกมว่าจะออกมาในทิศทางใด โดยสำหรับฝั่งของ Unity ก็กล่าวขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเป็นทางการอีกรอบ รวมถึงขอบคุณสำหรับฟีดแบ็คต่าง ๆ ที่มอบให้กับบริษัทเป็นอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา