BY TheStarrySky
13 Nov 19 1:22 pm

Vainglory เตรียมย้ายบ้านสู่ Rogue Games เปิดทางให้ “เกมใหม่” ของค่ายเดิม

20 Views

Vainglory ตำนานของ “ผู้มาก่อนกาล” ของบรรดาเกม Mobile MOBA ทั้งมวล กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้น เมื่อทางผู้พัฒนาอย่าง Super Evil Megacorp เตรียมส่งเกมให้ไปอยู่ในการดูแลของ Rogue Games และทุ่มเงินกว่าสิบล้านเหรียญในการพัฒนาเกมใหม่ของพวกเขา

ตามรายงานของ venturebeat.com ระบุว่า Vainglory หนึ่งในเกม Mobile MOBA เกมแรกๆ ของโลก ซึ่งมีผู้เล่นมาแล้วกว่า 45 ล้านคน ขณะนี้กำลังจะเปลี่ยนมือผู้ให้บริการจาก Super Evil Megacorp ไปเป็น Rogue Games และทางค่ายก็ยังได้เปิดระดมทุนเพื่อสร้างเกมใหม่ในชื่อ “Project Spellfire” โดยสามารถระดมทุนที่ว่านี้ได้มากกว่า 10.8 ล้านเหรียญ

ซึ่งก็เป็นไปตามประกาศของทางค่ายที่มีออกมาในช่วงกลางปีที่ผ่านมา เนื้อหาคือ จะมีการชะลอการพัฒนา Vainglory ออกไปก่อน เพื่อเปิดทางให้กับเกมใหม่ที่ว่าไป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

โดยทางค่ายก็ได้ระบุว่า นี่อาจเป็นข่าวที่ดูไม่ดีนักกับแฟนๆ Vainglory แต่ก็ขอให้มั่นใจได้ว่า พวกเขาได้เลือกบ้านใหม่ที่ดีที่สุดให้กับเกมนี้แล้วอย่างแน่นอน

ส่วนในด้านแฟนๆ ก็กล่าวว่า นี้อาจเป็นได้ทั้งจุดจบที่แท้จริงของ Vainglory หรืออาจเป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ของเกมที่พวกเขารักก็ได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของบ้านใหม่อย่าง Rogue Games ล้วนๆ ว่าจะพาเกมไปในทิศทางไหนต่อไป

สำหรับเกมใหม่อย่าง Spellfire นั้น Kristian Segerstrale ผู้เป็น CEO ของ Super Evil Megacorp ระบุว่า พวกเขาจะก้าวต่อไปข้างหน้าในโปรเจคนี้ จากเดิมที่สร้างเกมที่มีพื้นฐานเป็นเกมมือถือ พวกเขาจะพัฒนาเกมที่มีพื้นฐานเป็น “Cloud-First” หรือเกมที่เน้นใช้ระบบ Cloud เป็นหลัก หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เกมใหม่ของพวกเขานั้นจะสามารถเล่นได้บนทุกอุปกรณ์บนโลกนี้ ทั้ง PC,Mac, Console และ Mobile

เกมนี้จะมีสเกลที่ใหญ่กว่า Vainglory และมันจะกลายเป็นเกมรูปแบบใหม่ของโลก – Kristian Segerstrale

Kristian Segerstrale, CEO ของ Super Evil Megacorp

สำหรับความเคลื่อนไหวของ Vainglory นั้น เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็ได้มีการทำ Cross-platfrom อย่างเต็มรูปแบบกับ PC และ Mac โดยลงให้กับ Steam และยังมีแผนที่จะลงให้กับ platfrom อื่นๆ อีกในภายภาคหน้า ส่วนอนาคตของเกมและของค่ายจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ ก็ต้องติดตามกันต่อไป

Source : venturebeat.com

Pathiphan Tepinta

Back to top