Facebook ได้เผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า เหล่าเกมเมอร์สายมือถือทั้งหลายมักจะเลือกเล่นเกมใน “ประเภท” หรือแนวเกมที่ตัวเองชอบก่อน และเกมมือถือของผู้คนในแต่โซนของโลกก็มีความแตกต่างกันที่เห็นได้อย่างชัดเจน
โดยนี่เป็นข้อมูลที่ Facebook IQ ได้ให้กับ gamesindustry.biz ในการศึกษาเกี่ยวกับอิทธิพลของ “แนวเกม” หรือประเภทของเกมมือถือที่มีผลต่อการเลือก หรือไม่เลือกเล่นของเหล่าเกมเมอร์ โดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเล่นเกมมือถือกว่า 13,412 คนจาก 11 ประเทศ ซึ่งสามารถแยกเกมที่เล่นได้ถึง 27 เกม ครบทุกแนวทั้งประเภทหลักและย่อย ในการศึกษานี้ยังมุ่งเน้นไปที่การหาปัจจัยเสริมอื่น ๆ ที่มีผลนอกจากประเภทของเกมด้วย
ผลการศึกษาที่พบคือ ประเภทของเกมมีผลในการเลือกเล่นของเกมเมอร์สูงถึง 49% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด โดยเมื่อพวกเขาต้องที่จะลองเล่นเกมใหม่ ๆ ก็จะเริ่มคิด, หรือเริ่มหาจาก “ประเภท” ของเกมเป็นอย่างแรกเสมอ (เช่น Action, RPG, Arcade, Casual เป็นต้น) อย่างไรก็ตาม 40% ของกลุ่มตัวอย่างระบุว่าพวกเขาจะตัดสินใจจากคำแนะนำของเพื่อน หรือคนรอบ ๆ ตัวของพวกเขาในขณะนั้นด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังพบว่า 35% ของเกมเมอร์มือถือเลือกที่จะดูรีวิวของทางร้านค้าก่อนที่จะเริ่มค้นหา และอีก 34% มักจะเลือกเกมที่เป็นภาคต่อหรือมีลักษณะใกล้เคียงกับเกมที่เล่นอยู่
แต่ที่น่าสนใจคือ ผู้คนกว่า 33% จำเป็นต้องเลือกเกมจาก “มือถือ” ของพวกเขาเอง โดยเป็นข้อจำกัดทางด้าน Hardware ที่อุปกรณ์ของพวกเขาจะสามารถ, หรือไม่สามารถเล่นเกมหนึ่ง ๆ ได้ หรือเล่นได้แบบไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งตรงนี้จะอธิบายได้ถึงคำสำเร็จของเกมแนว hypercasual เหตุผลหนึ่งเพราะมันสามารถเล่นได้ในมือถือแทบทุกรุ่นนั่นเอง
รายงานในส่วนต่อไปกล่าวว่า แต่ละโซนของโลกนั้นมีแนวเกมที่ผู้คนนิยมเล่นแตกต่างกันชัดเจน โดยผู้คนในอเมริกาและอังกฤษจะชื่นชอบแนว Card/Casino, Matching Puzzle และเกมแนวเสริมสร้างสติปัญญาเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ผู้คนในญึ่ปุ่นและเกาหลีมักชื่นชอบเกมแนว Matching Puzzle มากที่สุด รองลงมาคือ RPG และ Racing แต่ในส่วนของเกาหลีนั้นได้มีเกมแนว Idler อยู่ในลำดับสองด้วย
ในส่วนท้ายของรายงานได้กล่าวสรุปเรื่องจำนวนเกมที่แต่ละคนเล่น โดยระบุว่าเกมเมอร์มือถือส่วนใหญ่มักจะเล่นเกมมากกว่า 2 แนวในเวลาเดียวกัน และมีน้อยมากที่บอกว่าพวกเขามีเกมที่เล่นอยู่เพียง “เกมเดียว”
ซึ่งข้อมูลจาก Facebook ก็ได้ยืนยันในเรื่องนี้ว่า ในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2020 ผู้คนในอเมริกา, อังกฤษ, และเกาหลีใต้ มักจะเล่นเกม 2 ชนิดในเวลาเดียวกัน แต่เกมเมอร์ชาวญี่ปุ่นนั้นเล่นถึง 3 ชนิดเลยทีเดียว
ทั้งนี้ ตลาดเกมมือถือนับได้ว่าเติบโตอย่างรวดเร็วชนิดที่หลายคนก็อาจคาดไม่ถึง โดยสามารถทำรายได้และชิงส่วนแบ่งการตลาดจากทั้ง PC และ Console ไปได้แล้วหลายส่วน จุดนี้ทำให้หลายค่ายเริ่มมีแนวคิดที่จะนำเกมของตนมาเปิดในรูปแบบมือถือมากขึ้น โดยมูลค่าของเกมทั้ง 3 แพลตฟอร์มในปี 2020 นี้จะอยู่ที่เท่าไหร่ ก็ต้องติดตามชมกันต่อไป
ที่มา gamesindustry.biz