กระแสวิพากษ์วิจารณ์ยังคงมีอยู่ต่อเนื่องหลังจาก Sam Houser ได้ให้สัมภาษณ์ว่าได้ใช้เวลาพัฒนาตัวเกม Red Dead Redemption 2 กันอย่างหนักจนต้องใช้เวลา 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ถึงแม้ว่าเวลาต่อมา เขาจะออกแถลงการณ์เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด ก็ได้มีอดีตพนักงาน Rockstar ได้เปิดโปงว่า ลักษณะการทำงานของบริษัทดั่งเอาปืนจ่อหัว เป็นเหตุให้โลกโซเซียลร้อนระอุยิ่งกว่าเดิม โดยล่าสุด ทีมงาน Rockstar เปิดใจเล่าชีวิตการทำงาน เพื่อที่เป็นปากกระบอกเสียงว่าทีมงานไม่ได้นโยบายการบังคับทำงานหนักจริง ๆ
อ้างอิงจาก IGN – เหล่าทีมงาน Rockstar Games ได้รวมตัวกันเปิดใจกล่าวประสบการณ์การทำงานภายในบริษัท ว่าสิ่งที่ Sam Houser ที่ได้แถลงการณ์รอบที่สองเป็นเรื่องจริงผ่านทาง Twitter หลังจากเกิดข่าวฉาวเกิดขึ้นมากมาย โดย Twitter ในรายชื่อเป็นสมาชิกภายในบริษัทเครือ Rockstar บางส่วนครับ
Timea Tabori โปรแกรมเมอร์สายเอนจิ้นของทีมงาน Rockstar North บอกว่า เธอไม่เคยโดนกดดันจากที่ทำงานเลย ส่วนใหญ่เธอจะทำงานราวเพียงแค่ 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น แม้ว่านโยบายการทำงานของบริษัทมันจะไม่เพอร์เฟค แต่อย่างน้อยก็ซื่อสัตย์และมีอัธยาศัยดีซึ่งกันและกัน
“ฉันทำงานให้กับ Rockstar มากกว่า 5 ปีแล้ว พวกเราได้รับอนุญาตให้พูดคุยอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับประสบการณ์ของเรา มันอาจจะห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบและไม่ได้เปิดกว้างขวางนัก แต่อย่างน้อยก็ซื่อตรงจริง”
“และใน 5 ปี ฉันไม่เคยได้โดนร้องขอหรือกดดันให้ทำงานเกินมากกว่า 100 ชั่วโมง ฉันทำงานเป็นครั้งคราวประมาณ 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์และไม่มีใครเรียกร้องหรือคาดหวังให้ทำงานแบบนั้น”
In over 5 years, never have I been asked or pressured to work anywhere near 100 hours. I have occasionally worked maybe 50 hours a week at most and nobody demanded or even expected that.
— Timea Tabori (@TimeaTabori) October 18, 2018
โปรแกรมเมอร์สังกัด Rockstar San Diego คุณ Vivianne Langdon ในกล่าวว่า เป็นเรื่องจริงที่บางครั้งเธอได้ทำงานหนักเกินเวลาบางช่วง แต่ไม่มีใครคนไหนมาบังคับให้เธอทำงานเกินเวลาถึง 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ต่อให้เธอทำ เธอก็ยังคงได้เงินโบนัสจากการทำ OT อีกด้วย
“R* อนุญาติให้พวกเราพูดคุยเปิดเผยเกี่ยวกับปัญหาที่กำลังร้อนแรงอยู่ในโลกโซเซี่ยลตอนนี้ ฉันต้องเน้นว่านี่คือความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้นและพูดออกมาโดยสมัครใจจริง ซึ่งจะเล้าประสบการณ์ที่พบเจอส่วนตัวเท่านั้น”
“ฉันไม่เคยทำงานมากกว่า 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (ซึ่งมันนาน ๆ ทีจะเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง) แต่ฉันมักจะทำงานประมาณ 2-6 ชั่วโมงจากการทำงานล่วงเวลาและยังคงได้รับเงินโบนัสปกติด้วย”
I have never worked more than maybe 50 hours a week (and that's a rare occurrence), but I generally work about 2-6 hours of paid overtime per week.
— Vivi Langdon 🏳️🌈 (@viiviicat) October 18, 2018
คุณ Wesley Mackinder หนึ่งในพนักงาน Rockstar North บอกว่า เรื่องดังกล่าวมันไร้สาระสิ้นดี เพราะว่าเขาไม่เคยโดนบังคับทำงานเกินเวลาเลย เผลอ ๆ เขารู้สึกมีความสุขและยินดีที่ได้ทำงานใน Rockstar ซะด้วยซ้ำ
“ในสัปดาห์นี้ทวิตเตอร์ของผมเต็มไปด้วยเรื่องบ้าบอ ผมอยู่กับ R* มากกว่า 6 ปี และผมไม่เคยทำงานหรือขอร้องให้ทำงานให้ระยะเวลาใกล้เคียง 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์”
“มันก็แปลกดีที่ผู้คนมากมายได้แชร์เรื่องราวนี้ แล้วแสดงความเห็นออกมาว่า “Rockstar ต้องมีการเปลี่ยนแปลง” เพราะเมื่อผมได้อ่านข้อความนั้นแล้วก็คิดตามว่า “ผมรู้สึกยินดีที่ได้ทำงานกับ Rockstar และได้ทำในสิ่งที่พวกเขาไม่เคยทำเช่นกัน”
https://twitter.com/WesleyMackinder/status/1052835101468487681
คุณ Tom Fautley หนึ่งในพนักงานทีม Rockstar Notrh รู้สึกไม่นิ่งนอนใจ จึงได้เป็นเสียงให้ทุกคนว่าบริษัท Rockstar ไม่มีการบังคับทำงานหนัก ซึ่งเป็นเหตุที่เขามีสุขภาพที่ดีจนถึงทุกวันนี้
“ในฐานะพนักงาน Rockstar North ผมควรให้กระบอกเสียงเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังถกเถียงอยู่ตอนนี้ ผมไม่เคยใครโดนบังคับให้ทำงานมากกว่า 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่เห็นได้ชัดเลยว่าเพื่อนที่ใกล้ชิดกับผมมากขึ้น นั้นก็คือ ‘สุขภาพที่ดี’ “
As a worker at Rockstar North, I should probably add my voice to the conversation going on around crunch. We do crunch. I've not seen anybody forced to work 100 hour weeks, but I've definitely seen friends get closer to that figure than is healthy.
— Tom Goodwin (@tfgoodle) October 18, 2018
ดูเหมือนว่าเรื่องการใช้แรงงานพนักงานภายในบริษัทเกมจะเป็นเรื่องที่น่าจับต่อดูและให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น หลังจาก Telltale Games ได้ประกาศปิดตัวลงกระทันหันแล้วได้มีข่าวเสียหายมากมายโดยทีมงาน Telltale ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศการทำงานภายในบริษัทที่แย่ ใช้แรงงานหนัก และรวมไปถึงไม่ได้จ่ายเงินเดือนตรงตามกำหนด หรือโบนัสจากการทำงานล่วงเวลา
Rockstar Games ยังไม่เปิดแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ แม้ว่า Sam Houser จะออกมาแก้ไขความเข้าใจผิดแล้ว แต่ดูเหมือนกระแสพูดคุยจะยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่องครับ