Rob Kazinsky ผู้รับบท Orgrim Doomhammer บอกหนัง Warcraft ควรได้มีภาคต่อเพื่อให้สมกับที่ภาคแรกถูกสร้างมา
จัดเป็นหนังจากเกมที่คะแนนเสียงแตกอย่างมากเพราะมีทั้งฝ่ายที่ชื่นชอบตัวหนังแบบสุดๆกับฝ่ายที่คิดว่าตัวหนังเข้าขั้นย่ำแย่ แต่อย่างไรก็ตามตัวหนัง Warcraft นั้นน่าจะถูกเขียนบทมาเพื่อเป็นการ “ปู” เนื้อหาไปสู่ภาคต่อ เพราะแม้แต่ชื่อภาคในช่วงแรกที่หนังเปิดตัวยังพ่วงด้วย The Beginning
การจะสร้างหนังจากเกมที่มีเนื้อหาและประวัติยาวนานสุดๆอย่าง Warcraft ในภาคเดียวก็ดูจะเป็นการตัดจบทำร้ายเนื้อหาต้นฉบับมากเกินไป แม้แต่ตัว Rob Kazinsky นักแสดงในหนังผู้รับบท Orgrim Doomhammer (ตัวจริงเป็นเกมเมอร์เดนตายแฟนเกม World of Warcraft) ก็ยังออกมาแสดงความคิดเห็นว่าตัวหนังควรมีภาคต่อเพื่อให้สมกับที่ตัวหนังภาคแรกถูกปูทางมาไว้แล้ว
ในการให้สัมภาษณ์กับเว็บ pcgamesn
ผมอยากให้หนังมีภาคต่อ ผมว่าถ้าเราอยากให้มันยุติธรรมกับหนังภาคแรกเราควรเล่าเรื่องราวต่อให้จบ มันควรมีภาคสองและภาคสามตามมา เราควรเล่าไปจนถึงตอนมหาสงคราม เล่าถึงการรบที่ Stormwind เราควรได้เห็น Thrall เติบโตเป็น Thrall อย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน ผมว่านั่นเป็นเรื่องที่เราควรจะทำ
ตอนนี้ยังไม่มีข่าวเกี่ยวกับการสร้างภาคต่อออกมา ผมว่าการที่หนังจะมาภาคต่อมันอาจจะต้องขึ้นอยู่กับ…เหมือนกับหนังอย่าง Pacific Rim ที่แม้จะไม่ได้ทำเงินได้มากในการออกฉายทั่วโลกแต่ก็มีแฟนๆติดตามจำนวนมากแล้วก็ขาย DVD กับสินค้าได้เยอะ ผมว่าถ้าเป็นไปได้เราน่าจะได้เล่าเรื่องราวไปจนถึงจุดที่หลายคนอยากได้เห็น
ผมไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นรึเปล่า แต่ผมหวังมากๆว่าเราจะได้มีภาคต่อ เพราะสำหรับแฟนๆที่ติดตาม Warcraft มายาวนานมันเป็นเรื่องโชคร้ายมากถ้าเราไม่ได้เห็นเรื่องราวที่เราอยากเห็นและเป็นเรื่องราวที่ทำให้เราหลงรักชื่อ Warcraft ตั้งแต่ต้น
สำหรับหนัง Warcraft นั้นใช้ทุนสร้างเป็นเงิน 160 ล้านเหรียญและทำเงินจากการออกฉายทั่วโลกไปได้ 433 ล้าน โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการฉายในประเทศจีนซึ่งเกมของ Blizzard นั้นฮิตมากๆ แต่นักวิเคราะห์และวงในของ Hollywood ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่ารายได้ดังกล่าวไปไม่ถึงเป้าและหนังน่าจะขาดทุนอยู่ราวๆ 30 ถึง 40 ล้าน หลังหักค่าใช้จ่ายและการแบ่งปันผลกำไรทั้งหมดออกมา
ณ ตอนนี้ยังไม่มีการประกาศการสร้างภาคต่อออกมาแต่อย่างใด แต่มีแหล่งข่าววงในบางแห่งอ้างว่า เริ่มมีการพูดคุยถึงการสร้างภาคต่อของหนังในเงื่อนไขสำคัญคือตัวหนังน่าจะต้องลดต้นทุนในการสร้างลงมาอีกครับ