ในวงการอุตสาหกรรมเกม หรือผู้เล่นเกมสามารถพบเห็นได้หลากหลายเชื้อชาติ แต่ไม่ใช่สำหรับประเทศเกาหลีเหนือที่ปิดประเทศกับข่าวสารทุกอย่างที่พวกเราไม่สามารถรับรู้ถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแต่ละวันได้ แน่นอนว่าพวกเราได้รู้เรื่องราวพวกนี้ เพราะข้อมูลมาจากผู้แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือมาเป็นชาวเกาหลีใต้ ซึ่งในรอบนี้จะเป็นบทสัมภาษณ์นี้จะกล่าวถึงวีดีโอเกมจากต่างประเทศที่ชาวเกาหลีเหนือนิยมแอบเล่นกัน และเล่นกันอย่างไรไม่ให้เจ้าหน้าที่จับได้
Kotaku ได้รายงานอ้างอิงข่าวสารมาจากนิตยสาร The Korea Times ในบทความ Daily NK โดยสัมภาษณ์กับผู้อพยพมาจากประเทศเกาหลีเหนืออายุวัย 14 ปี (ไม่เปิดเผยชื่อ) ได้เปิดเผยว่า วัยรุ่นส่วนใหญ่ในประเทศยังคงสามารถสนุกกับการเล่นเกมจากโลกภายนอกที่นอกเหนือจากเกมในประเทศเกาหลีเหนือกับจีนได้เช่นกัน โดยเขาได้กล่าวไว้ว่า
“ผมได้เกือบเล่นเกมชื่อดังครบเกือบทุกเกมที่ประเทศเกาหลีใต้นิยมเล่นกันในช่วงเวลาที่ผมยังคงอาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งรวมไปถึงเพื่อนผมทุกคนได้ลิ้มลองเกมจากต่างประเทศอีกด้วย”
“เด็กทุกคนในประเทศพอจะรู้เรื่องเกี่ยวกับวีดีโอเกมอยู่บ้าง แล้วเกมหลายเกมได้แพร่กระจายเกมตามชุมชมต่าง ๆ โดยการใส่ไฟล์เกมทั้งหมดลงใน USB แล้วก็แชร์ให้คนอื่นต่อไป”
อ้างอิงจากบทความนิตยสาร กล่าวว่าเกมที่เผยแพร่กระจายกว้างมากที่สุดในเกาหลีเหนือในตอนนี้ ก็คือ Grand Theft Auto V กับ Fifa Online หรือแม้กระทั่งเกมออนไลน์ I.G.I.2 ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน และก็มีการคาดเดาว่ามีประเทศจีนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้
แต่ในประเทศเกาหลีเหนือ ประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิใช้อินเตอร์เน็ตแล้วจะเล่นเกมออนไลน์ได้อย่างไร ? นั้นก็คือเหตุผลว่าเกมเมอร์ชาวเกาหลีเหนือยังคงใช้ระบบการเชื่อมต่อแบบ LANS ในการเล่นออนไลน์ และพวกเขาใช้วิธีเปลี่ยนแปลงนามสกุลไฟล์เพื่อใช้หลอกตาเจ้าหน้าที่ ซึ่งตัวเจ้าหน้าที่เองก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับตรวจสอบเกมเท่าไหร่นัก
“เจ้าหน้าที่ไม่ค่อยจะกระตือรือร้นตรวจสอบสื่อเกมจากต่างประเทศ และวิธีหลอกตาเจ้าหน้าที่ก็ง่ายนิดเดียวเพียงแค่เปลี่ยนนามสกุลไฟล์เป็นอะไรก็ได้ ไม่ว่าเป็น mp3 .avi .doc .jpg และอื่น ๆ
และประชากรเองก็ไม่ค่อยกังวลที่จะโดนจับได้ว่าเล่นเกมของต่างประเทศ เพราะเจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบและกำจัดสื่อบันเทิงประเภทละครกับภาพยนตร์ของประเทศเกาหลีใต้ซะมากกว่า”
ถือว่าเป็นการเปิดโลกให้เกมเมอร์ทุกคนได้รับรู้ถึงวิธีการเล่นเกมของชาวเกาหลีเหนือ ที่แม้ว่าจะต้องแลกกับการเสี่ยงโดนจับยัดเขาตารางในข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคงต่อชาติ แต่ก็ไม่สามารถหยุดความอยากรู้อยากลองของเกมเมอร์ชาวเกาหลีเหนือได้อยู่ดี