เมื่อคุณเล่นพยายามจะเล่นใหญ่ แต่อุปกรณ์ของคุณไม่เอื้อให้คุณทำแบบนั้น
งานนี้เรียกได้ว่าน่าจะเละไม่ต่างจากโจ๊กเลยทีเดียวสำหรับ WWE 2K18 เกมแฟรนไชส์มวยปล้ำภาคล่าสุดจาก 2K ภาคนี้เป็นภาคแรกที่ทำลงเครื่อง Nintendo Switch คอนโซลไฮบริดพกพาของทางนินเทนโด้ แต่ว่าปัญหามันก็เกิดขึ้น เนื่องจากครั้งนี้เป็นการพอร์ตมาลงครั้งแรก ทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของเฟรมเรตเป็นอย่างมาก ในตอนช่วงวางจำหน่ายแรก ๆ เฟรมเรตของเกมนั้นไม่ถึง 30 แต่จะแตะอยู่ประมาณ 17-20 ซึ่งเป็นอะไรที่แย่มาก ๆ สำหรับเกมราคาประมาณนี้
ไม่กี่วันเหมือนผู้พัฒนาจะทราบเรื่องความห่วยของตัวเกม ก็เลยจัดการออกแพทช์ใหม่ที่ปรับปรุงเกมบางส่วนทำให้เกมเริ่มที่จะเล่นได้ขึ้นมาบ้าง โหมด 1 vs 1 จะมีเฟรมเรตอยู่ที่ 27-30 เฟรมซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง แต่พอเล่นโหมดอื่นที่มีตัวละครเยอะขึ้น เช่น 2 vs 2 เกมกลับออกอาการกระตุกอย่างเห็นได้ชัด แม้จะมีแพทช์แก้ออกมาตามหลังก็ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย จนกระทั่งเกมหยุดพัฒนาในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้เกมนี้ยังคงเล่นได้ไม่สมบูรณ์อยู่ดี แม้ล่าสุดในวันที่ 15 พฤษภาคม จะมีการปล่อยแพทช์แก้ล่าสุดออกมา แต่พอโหลดมาติดตั้ง ปัญหาเดิม ๆ ก็ยังเกิดขึ้น ไม่รู้ว่าไปแก้ตรงส่วนไหน ทำไมเกมมันเล่นไม่ได้ซักที
ผู้เล่นหลายคนเริ่มหมดความอดทนกันแล้ว อย่างฟอรั่มของ Smacktalk ศูนย์รวมผู้เล่น WWE 2K ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็ไม่มีการพูดถึงตัวเกมในเวอร์ชั่นของสวิตช์กันแล้ว โดยแต่ละคนทำเหมือนว่ามัน “ไม่เคยมีตัวตนมาก่อน” ผู้เขียนก็เป็นคนหนึ่งที่เล็งเวอร์ชั่นนี้มาตั้งแต่วางขาย เนื่องจากผู้เขียนไม่ชอบการนั่งเล่นเกม อยากจะนอนเล่นบนที่นอนมากกว่า แต่พอไปเปิดหาคลิปวิดีโอเกมเพลย์ดู ก็ตัดสินใจไม่ซื้อดีกว่า เนื่องจากตัวเกมพอร์ตมาได้ห่วยเกิน
ก็เป็นบทเรียนสำหรับ 2K ไปว่าอย่าไปซ่าทำอะไรแบบนี้อีก ประสิทธิภาพของ Switch สูงก็จริง แต่ไม่สูงพอจะรันเกมนี้ได้แน่ ๆ ขนาดบน PC การ์ดจอขั้นต่ำยังต้องระดับ 1050TI ขึ้นไปถึงจะดูโอเค สวิตช์ตัวน้อย ๆ จากนินเทนโด้มันจะไปรันได้ได้ยังไง งานนี้ก็คงโทษใครไม่ได้นอกจากผู้พัฒนานั่นแหละครับ