หลายคนอาจกำลังสงสัยว่า Celeste คือเกมอะไร ทำไมชื่อนี้ถึงได้ไปปรากฎตัวเคียงข้างเกมชื่อดังอีกหลายเกมบนเวทีระดับโลก วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักเกมที่มีชื่อว่า Celeste ให้มากขึ้น
นี่คือผลงานที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยใจ
Celeste เป็นเกมแนว Platformer ผลงานของสองนักสร้างเกมจากประเทศแคนาดา Matt Thorson และ Noel Berry ซึ่งฝากผลงานชื่อดังเอาไว้ภายในชื่อ Tower Fall ตัวเกมนั้นออกวางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 25 มกราคม ปีนี้
เนื้อหาของเกมจะเกี่ยวข้องกับเด็กสาวที่มีชื่อว่า Madeline ผู้ตั้งเป้าจะปีนภูเขา Celeste ภูเขาสมมุติทางตะวันตกของแคนาดาให้สำเร็จ
ดูจากเนื้อเรื่องและระบบการเล่นแล้ว Celeste ดูไม่น่าจะเป็นเกมที่โด่งดังเทียบชั้นเกมชื่อดังอื่น ๆ ในท้องตลาดได้เลย แต่นี่คือผลงานเกมที่คว้าคะแนน 10/10 จากเว็บ IGN และ 9/10 จากอีกหลายสำนัก เพราะอะไรทำไมเหล่านักวิจารณ์และเกมเมอร์ทั่วไปที่ได้สัมผัสเกมนี้ต่างพากันเทคะแนนมอบใจให้ Celeste ?
เริ่มกันที่ระบบการเล่นหลักก่อน มองในฐานะวีดีโอเกมที่เน้นความสนุก Celeste ถือเป็นผลงานที่ออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยม การควบคุมและระบบการเล่นนั้นเรียบง่าย นอกจากการเคลื่อนที่กระโดดไปแบบพื้นฐาน ตัว Madeline ยังมาพร้อมความสามารถ Dash หรือพุ่งกลางอากาศได้ 1 จังหวะ และสามารถเกาะและไต่กำแพงสั้น ๆ ได้
การบังคับของ Madeline นั้นลื่นไหลเป็นไปดั่งใจนึก ทุกการกระโดด การพุ่งตัวเป็นไปตามที่ผู้เล่นกดด้วยตัวเอง ทุกครั้งที่เรากระโดดพลาดเราจะไม่รู้สึก “โทษ” ว่าเป็นความผิดของเกมแม้แต่น้อย เมื่อรวมเข้ากับการออกแบบด่านระดับเทพที่มีการเพิ่มลูกเล่นและอุปสรรคใหม่ ๆ ที่คาดไม่ถึงเข้ามาเป็นระยะทำให้แฟนเกม Platformer ต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่านี่เป็นสุดยอดเกม Platformer ขึ้นหิ้งอีกหนึ่งตัว
อีกจุดของเกมที่ได้รับคำชมอย่างล้นหลามและส่งให้ตัวเกมไม่ใช่แค่เกม Platformer ธรรมดาทั่วไปก็คือ “เนื้อเรื่อง” ตัวเอก Madeline ตั้งใจจะปีนเขา Celeste ให้สำเร็จเพราะปัญหาในชีวิตที่ผ่านมาของเธอ
Celeste พาเราไปเจอกับตัวละครที่น่าสนใจมากมาย พาเราไปสำรวจเรื่องราวปัญหาหลายอย่างในชีวิตจริงของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน การค้นหาตนเอง ความวิตกกังวลในการใช้ชีวิต ทุกอย่างถูกเล่าออกมาอย่างแนบเนียนผ่านการนำเสนอที่น่าติดตามทั้งในบทพูด ตัวละคร หรือแม้กระทั่งด่านและอุปสรรคต่าง ๆ ในเกม
เมื่อรวมสองข้อดีสำคัญทั้งระบบการเล่นและเนื้อเรื่องเข้ากับภาพกราฟฟิกที่สวยงามน่ารักและดนตรีประกอบสุดไพเราะ ผลที่ได้ก็คืองานเกมระดับ “ตำนาน” ที่ไม่ได้มีให้เห็นกันทุกปีจึงไม่น่าแปลกใจที่ Celeste จะถูกเลือกให้ขึ้นไปเทียบชั้นเกมทุนใหญ่จากค่ายยักษ์แม้จะเป็นผลงานเล็ก ๆ ของทีมงานอินดี้
ดูจากภายนอก Celeste คงไม่อาจเทียบชั้นเกมดังระดับ AAA อย่าง God of War หรือ Red Dead Redemption 2 แต่นี่คือผลงานที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยใจ เป็นตัวแทนที่ช่วยตอกย้ำให้เรามองเห็นความสวยงามและพลังของวีดีโอเกมในฐานะสื่อและก็ไม่น่าแปลกใจที่ผลงานชิ้นนี้จะถูกเลือกให้ขึ้นไปยืนเทียบชั้นเกมดังอื่น ๆ ของวงการ