ปัญหาเด็กติดเกมไม่ใช่มีแค่ประเทศบ้านเราเท่านั้น
เกมประเภท Battle Royale ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก วัยรุ่น หรือแม้แต่ผู้ใหญ่เอง แน่นอนว่าใคร ๆ ก็อยากเอนจอยกับการเล่นเกมเป็นเวลานาน แต่เคสนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงการเล่นเกมที่นานเกินไปจนกลายเป็นเด็กติดเกม ที่บางครอบครัวจะต้องเผชิญ เมื่อมีวีดีโอเกมเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเด็ก
สำนักข่าวสัญชาติอังกฤษ The Mirror UK ได้มีการประกาศข่าวออกมาว่า มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง (ไม่เปิดเผยชื่อ) ได้รับการรักษาจิตบำบัด จากการเล่น Fortnite เป็นเวลานาน จนเกิดปัญหาสุขภาพจิตและได้กลายเป็นกลายเป็นเด็กติดเกมในที่สุด
โดยผู้ปกครองของเด็กหญิงให้การกับข่าวว่า ผู้ปกครองได้ซื้อเครื่องเกมคอนโซล Xbox One ในช่วงมกราคม ที่ผ่านมาเพื่อให้ลูกหลานได้เล่นกัน ซึ่งเธอก็ได้ดาวน์โหลดเกม Fortnite มาเล่นตามปกติ
แต่แล้วในช่วงกลางเดือนมีนาคม เธอก็มีพฤติกรรมการเรียนที่แย่ลง โดยผู้ปกครองได้รับการรายงานจากทางโรงเรียนว่า เธอมีอาการง่วงนอน และงีบหลับในระหว่างการเรียนถึงสองครั้ง ซึ่งผลการเรียนของเธอก็ตกต่ำลงด้วย พอผู้เป็นพ่อแม่ได้บอกปัญหาในการเรียนที่เกิดขึ้น เจ้าตัวก็ได้แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว และโต้เถียงอย่างรุนแรง
และผู้ปกครองก็ได้สืบจนรู้ว่า ลูกสาวได้จ่ายเงินกับเกม Fortnite ในทุก ๆ เดือน ด้วยบัตรเครดิตเป็นจำนวนเงิน 50 ยูโร (หรือประมาณ 2,146 บาทไทย)
โดยผู้ปกครองได้วางแผนจำกัดเวลาเล่นอย่างเด็ดขาด โดยให้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในช่วงตอนดึกหลังเลิกเรียน และ 2 ชั่วโมงสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่ดูเหมือนอาการติดเกมก็ยิ่งทวีความรุนแรงเรื่อย ๆ จนยากที่จะควบคุม โดยคุณพ่อได้พบว่าลูกสาวจดจ่ออยู่กับ Fortnite โดยไม่ทำอะไรอย่างอื่น แม้กระทั่งลุกไปเข้าห้องน้ำ เพราะเธอได้ปัสสาวะราดในขณะที่กำลังเล่นเกมอยู่
หลังจากเหตุการณ์นั้น ลูกสาวได้สารภาพว่าเธอแอบเล่นเกมเป็นเวลา 10 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้ผู้ปกครองของเธอต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่ช่วยเหลือลูกสาว จนสุดท้ายผู้ปกครองได้ตัดสินใจส่งเธอไปรับการรักษาบำบัดจิตเพื่อแก้อาการเสพติดเกมจากการเล่น Fortnite
นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างของอาการเสพติดเกมขนาดหนัก เพราะนอกจากจะส่งผลเสียต่อการเรียน ยังทำให้พฤติกรรมของเด็กมีความก้าวร้าวอย่างรุนแรง ถึงแม้ผู้ปกครองได้พยายามที่จะควบคุมแล้วก็ตาม ฉะนั้นการเล่นเกมที่ดี จะต้องรักษาเวลาระหว่างการเรียน การเล่น ให้ชัดเจน เพราะผู้เขียนเองก็เคยเป็นเด็กติดเกมเช่นกัน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการใช้ชีวิตเลย
ที่มาของข่าว : Mirror UK
