ฝันร้ายจากวันวานกลับมาในรูปโฉมใหม่ มันจะเทียบกับตำนานต้นฉบับได้หรือเปล่า หาคำตอบได้ในรีวิวตัวนี้
Story
ค.ศ. 2508 ยานขุดเจาะดวงดาว ‘อิชิมูระ’ ได้เดินทางมายังดาว เอจิส 7 เพื่อทำการขุดเจาะแร่ธาตุกลับไปเป็นทรัพยากรบนโลก ซึ่งถือเป็นภารกิจขุดแร่ที่มีระยะทางไกลกว่าปกติ แต่แล้ว ยาน อิชิมูระ ก็ได้ขาดการติดต่อ ทำให้ CEC บริษัทเจ้าของยานต้องส่งทีมซ่อมบำรุงเพื่อทำการฟื้นฟูระบบสื่อสาร ไอแซค คลาร์ก วิศวกรยานอวกาศก็ได้อาสามาในงานนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาจะมาตามหา นิโคล แบรนแนน แฟนสาวของเขาที่ทำงานเป็นหมออยู่บนยาน อิชิมูระ แต่พอพวกเขามาถึง ยาน อิชิมูระ ก็ได้กลายเป็นนรกกลางอวกาศที่เต็มไปด้วยอสูรกาย ไอแซค และทีมของเขาต้องร่วมมือกันเพื่อหาทางรอดไปจากยานนรก อิชิมูระ
สำหรับผู้ที่เคยผ่านภาคต้นฉบับมาแล้วก็จะพอรู้ว่า เนื้อเรื่องในเกมนี้มีจุดจบและมีการสานต่ออย่างไร แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยสัมผัส Dead space ภาคไหน ๆ นี่จะเป็นภาคที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการเริ่มต้น ทั้งความเข้มข้นและรายละเอียดที่มีให้ติดตาม มันคือจักรวาลเกมที่เต็มไปด้วยความสยองขวัญและความเร้าใจ ที่พอจบภาคนี้คุณจะอยากหาภาคอื่น ๆ หรือ นิยาย อนิเมชั่น มาติดตามต่อกันเลยทีเดียว
แต่สำหรับผู้เล่นหน้าเก่าที่ผ่านซีรีส์นี้มาเยอะแล้วนี่ก็ยังเป็นเรื่องราวที่น่าลองสัมผัสอีกครั้ง มันมีการสร้างเรื่องราวแบบใหม่ มีการเปลี่ยนบทบาทที่ทำให้เกมดูสมเหตุสมผลมากขึ้น แถมยังรอบรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคถัดไป ซึ่งการสร้างบทบาทใหม่ของตัวละครบางตัวนอกจากจะเป็นการเปลี่ยนอารมณ์เพิ่มความเข้มข้นให้กับการเล่าเรื่อง มันยังช่วยอุด Plot hole ที่เป็นข้อเสียจากเกมต้นฉบับได้อย่างแนบเนียน
เรียกได้ว่าถึงจะเป็นแฟนหน้าใหม่ หรือแฟนพันธุ์แท้ Dead Space มันก็เป็นเกมที่อัดแน่นไปด้วยความเข้มข้นที่สุดแสนจะสยองขวัญที่ทุกคนต้องได้ลองสัมผัสกันซักครั้ง
Presentation
ในภาคต้นฉบับไอแซค คลาร์ก จะไม่พูด เป็นตัวละครใบ้ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้เล่น ในภาครีเมค ไอแซค คลาร์ก จะพูดได้แล้ว ทำให้บรรยากาศของภาคนี้จะต่างไปเป็นคนละเกม บาบาทการผจญภัยจะมีหลายครั้งที่ ไอแซค ก้าวขึ้นมาเป็นคนนำเอง ที่ทำให้เราได้เห็นความสามารถในการแก้ไขปัญหาอย่างช่ำชองของ วิศวกรสุดเทพคนนี้
และเราจะรู้สึกได้ถึงความมีชีวิตของตัว ไอแซค ทั้งการหายใจ การพูด จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสภาพร่างกาย ในเวลาที่เขาวิ่งจนหอบหรือขาดออกซิเจนในช่วงสูญญากาศ การหายใจของเขาก็จะเริ่มหอบหรือติดขัดขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อได้พักเหนื่อยหรือได้รับการเติมออกซิเจน การหายใจของเขาก็จะค่อย ๆ กลับเป็นปกติอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การตัดส่งไปมาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ระดับพลังชีวิตก็มีผลกับเสียงพูดของ ไอแซค ในเวลาที่พลังชีวิตยังไม่ลดมากเสียงของเขาจะปกติ แต่ในเวลาที่ระดับพลังชีวิตลงต่ำ ไอแซค จะมีเสียงที่ปนความเจ็บปวด ทำให้เขาดูมีความเป็นคนธรรมดาที่แสดงออกทั้งความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวด
เนโครมอร์ฟ ศัตรูกลายพันธุ์โหดที่เราจะได้เจอตลอดทั้งเกม มันจะมีระบบความเสียหายแบบใหม่ที่ที่ละเอียดชนิดถึงกระดูก การถูกโจมตีในแต่ละส่วนจะทำให้ศัตรูตัวนั้นถูก ‘ปอก’ ชิ้นเนื้อจะหลุดออกมาตามจุดที่ถูกโจมตีจนกว่าจะขาดออก รวมทั้งความเสียหายอย่างอื่นก็ทำได้อย่างละเอียดและน่าสยดสยอง อย่างศัตรูที่ถูกระเบิดก็จะทำให้ทั้งชื้นเนื้อและชิ้นส่วนหลุดกระจายออกจากกัน การถูกโจมตีด้วยไฟก็จะทำให้ศัตรูตัวนั้นไหม้เกรียมเป็นตอตะโก ทำให้การต่อสู้ดูมีแรงตอบสนองที่สยองไปอีกขั้น
ยาน อิชิมูระ ก็ได้รับการดีไซน์ใหม่ จากการผ่านไปทีละด่าน คราวนี้ยาน อิชิมูระ จะเป็นเหมือนกับ สน. RPD ใน Resident Evil 2 ที่ทุกพื้นที่จะเชื่อมถึงกันโดยไม่มีฉากโหลด รถรางที่เคยเป็นจุดจบของด่านจะกลายมาเป็นเครื่อง Fast travel ที่เราไม่จำเป็นต้องใช้อย่างเดียว ทุกจุดในยานเราสามารถเดินทะลุถึงกันได้ และด้วยความที่เราสามารถย้อนกลับมาสำรวจพื้นที่ ทำให้บางจุดจะมีประตูหรือล็อคเกอร์พิเศษที่จะเปิดได้จากการใช้สิทธ์ Clearance ที่จะอัพเกรดไปตามเนื้อเรื่อง หากเราจำได้ว่ามีประตูเหล่านี้อยู่ที่ไหนบ้าง การย้อนกลับมาที่เดิมก็จะทำให้เราได้รางวัลพิเศษ
การอัพเกรดอาวุธและอุปกรณ์เราจะไม่สามารถลักไก่ได้เหมือนภาคต้นฉบับ ที่เราอัพเกรดปืนให้แรงได้ตั้งแต่ช่วงต้นเกม ทั้งปืนกับชุดจะมีลืมิตที่กำหนดเอาไว้ ถ้าอยากได้ตัวเลือกของชุดเกราะเราก็ต้องซื้อชุดเกราะเลเวลที่สูงขึ้น ถ้าอยากอัพเกรดปืนคุณก็ต้องหาอุปกรณ์อัพเกรด ที่หลายชิ้นก็จะซ่อนอยู่ตามประตูลับ ยิ่งเป็นอีกเหตุผลที่บีบให้เราออกสำรวจ ด้วยการผสมกันทั้งดีไซน์ฉากที่เชื่อมต่อกันอย่างฉลาด การสำรวจที่มีทั้งการหาทรัพยากรและการติดตามมิชชั่นเสริม ทำให้มันเปิดประสบการณ์ใหม่อย่างที่ Dead Space ไม่เคยเป็นมาก่อน
Gameplay
ลืมไปได้เลยกับการที่เนโครมอร์ฟจะชะงักทันทีที่ถูกยิงแขน คราวนี้มันจะเดินเข้าใส่คุณแม้จะโดนกระสุนจนเนื้อหลุด เนโครมอร์ฟในภาคนี้จะเป็นเหมือนกับซอมบี้ใน Resident Evil 2 Remake ที่มันทั้งอึดทั้งดุร้ายอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน จะยิงให้ชะงักได้ต้องถึงขั้นที่ชิ้นส่วนหลุดเท่านั้น
แต่ระบบการเล่นของภาคนี้ก็เอาระบบจากภาค 2 มาใช้เยอะพอสมควร ไอแซค สามารถกระทืบและตบตีระยะใกล้ได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ทรงพลังเท่ากับในภาค 2 แต่ก็มีประโยชน์กว่าในภาคต้นฉบับ เราสามารถคว้าสิ่งของมายิงเสียบด้วยอุปกรณ์ Kinesis module แถมเราสามารถใช้สิ่งของได้หลากหลายมากขึ้น เช่นใบเลื่อย ใบพัดลมหรือแม้แต่ถังดับเพลิง การควบคุมในสภาพ Zero-G ก็เป็นรูปแบบของภาค 2 แต่คราวนี้เราสามารถพลิกตัวในมุม 90 องศา ให้เราตั้งองศาตัวเองได้ ไม่ต้องรีเซ็ตอย่างเดียว ทำให้การควบคุมในสภาพไร้แรงโน้มถ่วงจะทำได้อย่างคล่องตัว ดังนั้นถ้าใครเคยเล่น Dead Space 2 ก็จะเป็นงานทันทีที่ได้เล่นภาคนี้
ดีไซน์ภารกิจของเวอร์ชั่นรีเมคจะถูกปรับเปลี่ยนใหม่แทบจะทั้งหมด ยิ่งด้วยการควบคุมในระบบ Zero-G ที่ดีกว่าเดิม ทำให้การผ่านฉากในพื้นที่ไร้แรงโน้มถ่วงจะดูตื่นตาตื่นใจมากขึ้น รวมถึงเป้าหมายภารกิจก็จะเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบที่เล่นสนุกกว่าเดิม เรียกว่ายังเป็นปัญหาเดิมที่ ไอแซค และพวกจะต้องหาทางแก้เพื่อเอาชีวิตรอด แต่วิธีในการแก้ปัญหานั้นจะเป็นอะไรที่สดใหม่จริง ๆ
ระบบการสุ่มเกิดของศัตรูก็ทำให้ภาคนี้น่ากลัวอย่างที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึง การย้อนกลับมาทางเดิมเพื่อสำรวจเอาไอเทมและเปิดประตูลับอาจจะทำให้เราเผชิญกับฝูงเนโครมอร์ฟที่ไม่เคยโผล่มาก่อน ทำให้การย้อนทางเดิมจะไม่รู้สึกน่าเบื่อแถมยังเต็มไปด้วยความระทึกที่เราจะไม่รู้เลยว่าข้างหน้าจะต้องเจออะไร
ดีไซน์อาวุธก็ได้รับการยกเครื่องใหม่ คุณจะไม่ต้องซื้ออาวุธอีกแล้ว อาวุธแต่ละกระบอกจะได้มาตามเนื้อเรื่อง ทำให้เราเลือกอาวุธตามใจตั้งแต่เริ่มเกมไม่ได้ แต่การพกอาวุธติดตัวเราจะทำได้มากกว่า 4 กระบอก ซึ่งในการใช้เราจะต้องนำมาใส่ช่องทั้ง 4 Slot ก่อน อาวุธหลายอย่างได้รับการปรับปรุงใหม่ บ้างก็ทำให้มีพลังน้อยลง บ้างก็ทำให้มีประโยชน์มากขึ้น ทำให้เกมมีความสมดุลไม่ใช่ว่าอาวุธเดียวจะสามารถชนะทั้งเกมได้อีกแล้ว แถมแทคติคของอาวุธบางชิ้นก็ดูน่าสนใจขึ้น อย่างเช่น Force gun ที่มีโหมดการยิงรองเป็น Gravity well ดูดศัตรูมารวมกันที่เดียวเปิดช่องให้เราใช้ปืนอื่นยิงอัดระเบิดเต็ม ๆ และศัตรูในภาคนี้ก็ได้ถูกปรับให้เราต้องใช้อาวุธหลายแบบ อย่างศัตรูตัวเล็กที่คอยตัดจังหวะเรา จะถูกกำจัดง่าย ๆ ด้วยปืนไฟ หรือศัตรูที่อุ้มท้องก็ไม่เหมาะกับการใช้ระเบิดหากไม่อยากต้องเจอศัตรูซ้ำซ้อน แต่ศัตรูบางชนิดการเหมาะกับการใช้ระเบิดมากกว่า ดังนั้นเราจะต้องเลือกพกอาวุธและอัพเกรดให้เหมาะสม
จะมีข้อเสียอยู่เล็กน้อยในด้านเกมการเล่น อย่างแรกก็คือพลัง Kinesis ที่ใช้ในการหยิบจับสิ่งของจะมีบั๊คเล็กน้อยนั่นคือในจังหวะที่เรากดเล็งค้างมากไปจะทำให้การหยิบจับสิ่งของไม่ค่อยขึ้น ต้องปล่อยแล้วเล็งใหม่ถึงจะจับได้ดีเหมือนเดิม กับระบบ Circuit breaker ที่ในบางฉากเราสามารถเลือกได้ว่าจะต้องเผชิญกับความลำบากแบบใน เช่นการตัดไฟฟ้าหรือตัดออกซิเจน นี่คือไอเดียที่ดูเข้าท่าและน่าตื่นเต้นมากแต่น่าเสียดายที่จังหวะแบบนี้กลับมีให้เล่นน้อยอย่างเหลือเชื่อ
Performance
เรียกว่าเป็นเกมที่อัดแน่นทั้งงานภาพและเสียง รายละเอียดกราฟิกของ Dead Space Remake มันจะดูสมกับความเป็นเกม Next-gen ทุกแสงที่ปรากฏจะมีการฉายแสงสะท้อนไปรอบตัว แม้แต่ประกายไฟเล็ก ๆ ที่กระเด็นกระดอนตามแรงฟิสิกส์อย่างสวยงาม และยิ่งสวยงามขึ้นไปอีกในจังหวะที่อยู่ในสภาวะไร้แรงโน้มท่วง ฟิสิกส์ตามสิ่งของในฉากก็เป็นอีกหนึ่งตัวชูโรง ในจังหวะที่ประตู airlock เปิดออกมาที่ชั้นสูญญากาศ ข้าวของในห้องก็จะถูกดูดออกมาอย่างสมจริง คุณภาพกราฟิกโดยรวมก็ถือว่าดูดีมากแม้จะยังไม่ได้ปรับขึ้นสุดก็ตาม
ลูกเล่นเสียงก็เป็นอีกหนึ่งทีเด็ดของ Dead Space Remake เสียงที่เดินทางจากจุดกำเนิดจะมีการสะท้อนและแทรกผ่านวัตถุอย่างที่ควรจะเป็น เสียงจากภายในห้อง เสียงจากหลังกำแพง หรือเสียงที่อยู่ในท่อลมจะมีการเดินทางอย่างถูกต้องหรือมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อม ยิ่งเพิ่มบรรยากาศความหลอนจนไม่รู้เลยว่าเสียงไหนที่เป็นเสียงประกอบฉากหรือเสียงศัตรูจริง ๆ
แต่กราฟิกที่สวยงามก็มาพร้อมกับการกินแรงเครื่องเสมอ แม้จะใช้เครื่องคอมแบบ i9 10900K กับ RTX 3080 ถ้าจะเล่น 4K 60FPS เราก็ไม่สามารถปรับภาพสุดได้ และต้องใช้ตัวช่วย DLSS แบบ Performance ยิ่งถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ระดับล่างเช่น i5 8400 และ GTX 1070 ก็แทบเลี้ยง 60 เฟรมไม่ได้เลยแม้จะปรับภาพแบบ 1080p ในกราฟิกระดับ Low
และมีอีกอย่างหนึ่งที่เป็นของสำคัญมาก หากเราอยากจะเล่นเกมนี้บน PC นั่นคือ SSD Storage นี่คือคำเตือนที่ขึ้นอยู่ในเกมจริงจังว่าเราต้องมี เพราะการลงเกมในฮาร์ทดิสก์จานหมุนธรรมดาอาจจะทำให้เกมเจอปัญหา ซึ่งจากที่เราทดสอบ นอกจากสิ่งของและพื้นผิวจะโหลดไม่ทัน ตัวศัตรูบางทีก็โหลดไม่ทันทำให้มันเกิดสคริปท์ผิดพลาด และแย่ที่สุดคือถึงระดับที่เกมเล่นต่อไม่ได้เพราะ Key item ไม่ปรากฏขึ้นมา ดังนั้นเราต้องมี SSD เท่านั้น หรือเล่นเกมนี้บนเครื่อง PS5, Xbox Series
Verdict
นับว่าเป็นเกมที่เกินความคาดหมายไปมาก มันคือเกมที่สร้างโดยแฟน Dead Space เพื่อแฟน Dead Space อย่างแท้จริง และอาจจะเรียกได้ว่ามันคืออีกหนึ่งการรีเมคอย่างสมบูรณ์แบบของวงการเกม
Story 10/10
Presentation 10/10
Gameplay 9/10
Performance 9/10
Gamingdose Score 9.5/10
