กระแส Gaming Phone ในช่วงปีสองปีนี้ ถือเป็นอะไรที่มาแรงมาก เราเห็นการทำตลาดของบริษัทสมาร์ทโฟนเจ้าดัง ๆ มากมาย รวมถึงแบรนด์ Gaming ทั้งหลายก็เข้ามาเสริมทัพเช่นกัน และในปีนี้ Gaming Phone ที่เป็นกระแสมากที่สุด คงหนีไม่พ้น ASUS ROG Phone 2 ภาคต่ออย่างเป็นทางการ ของมือถือเกมมิ่งจาก ASUS ที่เคยชิมลางตลาดไทยมาแล้ว
ดีไซน์ภายนอก
ก่อนจะเข้าไปดูรายละเอียดลึก ๆ ภายใน เรามาดูภายนอกกันก่อน ตัวของ ROG Phone 2 ใช้วัสดุตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียมกับกระจกผสมกัน จับแล้วให้ความรู้สึกทนทาน แต่เมื่อเทียบน้ำหนักแล้ว ค่อนข้างหนักกว่ามือถือเรือธงหลายเจ้าอยู่มาก (240 กรัม) แต่ด้วยความที่ตัวเครื่องใช้วัสดุอย่างดี แถมยังดีไซน์เครื่องให้โฉบเฉี่ยว จับถนัดมือ ทำให้ปัญหาด้านน้ำหนักไม่ค่อยจะมีผลเท่าไหร่ หากคุณใช้มือถือเรือธงมาตลอดอยู่แล้ว
หน้าจอของ ROG Phone 2 เป็นหน้าจอแบบ 19.5:9 ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล ทำให้ขนาดของหน้าจอจริง ๆ จะยาวกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปในท้องตลาด ป้องกันด้วย Gorilla Glass 6 รุ่นล่าสุด โดยเจ้ากระจกนี้สามารถป้องกันได้หมด ทั้งรอยขีดข่วนในชีวิตประจำวัน การตก การกระแทก ยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือกันน้ำไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าพยายามเอาไปจุ่มน้ำเล่นกันนะ
ด้านเสียง ตัว ROG Phone 2 ยังคงใส่ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรมาให้เราใช้ หลังจากมือถือเรือธงถอดมันออกเกือบหมดแล้ว พ่วงด้วยลำโพงคู่สองตัวแบบล้ำ ๆ ซึ่งเราบอกได้เลยว่าเสียงมันดีมาก แยกซ้ายขวาชัดเจน แถมยังดังได้เรื่องอีก ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือจะใช้งานในด้าน Media ถ้าเสียงจะขนาดนี้ก็ไม่ต้องใส่หูฟังให้เจ็บหูเลย
ย้อนกลับมาที่จุดเด่นของ ROG Phone 2 นั่นก็คือหน้าจอแบบ 120 Hz ซึ่งผู้เขียนต้องบอกเลยว่า นี่แหละคือจุดเด่นที่แท้จริงของ ROG Phone 2 เพราะความลื่นไหลของมันเข้าขั้นดีมาก ดีจนเสพติด เมื่อบวกกับอัตราการสัมผัสหน้าจอ 240 Hz เข้าไปอีก กลายเป็นว่าสัมผัสการใช้งานโดยรวมของ ROG Phone 2 นั้นลื่นไหลกว่ามือถือเรือธงทั่วไปเอามาก ๆ
แต่โดยรวมทั้งหมดยังมีข้อสังเกตอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นความสว่างที่จอ 120 Hz จะน้อยกว่าเป็นปกติ รวมถึง Pixel Density ที่มีเพียง 391 ppi ถือว่าน้อยกว่าเรือธงของแอนดรอยด์เกือบทั้งท้องตลาด ทำให้ความละเอียดและความสว่างขณะใช้งาน เป็นอีกหนึ่งข้อสังเกตที่คุณควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน
การเล่นเกม
พูดถึง ROG Phone 2 แล้วไม่พูดถึงเรื่องเกมคงจะตลกน่าดู สำหรับการเล่นเกมในเกมมิ่งโฟนตัวนี้ เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดประสบการณ์อย่างแท้จริง เพราะคุณสามารถปรับแต่งทุกอย่างตามที่คุณต้องการได้ ด้วยแอปพลิเคชั่น Armory Crate ซึ่งเปิดโอกาสให้คุณปรับแต่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรีเฟรชเรท กราฟิกของเกม รวมถึงการ Overclock CPU ระหว่างเล่นก็ทำได้
และ Panel ในเกมก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เมื่อคุณเปิดเกม แล้วรูดเมนูด้านซ้ายมือให้ออกมา คุณจะพบกับเครื่องมือต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปิดแจ้งเตือนทั้งหลาย เปิดโหมด DND ขั้นสูงเสมือนปิดเครื่อง หรือแม้กระทั่งเปิดอินเทอร์เน็ตให้ใช้กับเกมที่เราเล่นอย่างเดียวก็ทำได้ เรียกได้ว่าล้ำมาก ๆ อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นสตรีมมิ่งติดมาด้วย งานนี้ไม่ต้องโหลดอะไรมาใช้ ใช้ของเดิมนี่แหละสเถียรดี
สำหรับประสิทธิภาพในการเล่นเกม ASUS ROG Phone 2 ใช้ CPU Qualcomm Snapdragon 855 Plus เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องแลคอะไรก็แล้วแต่ เพราะ CPU ตัวนี้เป็น CPU เรือธง ณ ปัจจุบัน เล่นได้ทุกเกมที่มีอยู่ในตอนนี้แบบลื่นไหลหายห่วง ยิ่งเสริมกับ Armory Crate และระบบระบายความร้อนของ ASUS ยิ่งทรงพลัง ทดสอบกับ Asphalt 9 และเกมอื่น ๆ ที่เป็น Partner ถือว่าเล่นได้ตามที่โฆษณาไว้ทุกอย่าง ถ้าใครอยากได้มือถือที่เอาไว้เล่นเกมจริง ๆ ตัวนี้แหละคือคำตอบ
แบตเตอรี่
การใช้งานและการชาร์จแบตเตอรี่ใน ASUS ROG Phone 2 น่าจะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ผู้เขียนประทับใจมาก ๆ อย่างที่คุณรู้ เมื่อหน้าจอมันมีรีเฟรชเรทที่สูง การกินแบตเตอรี่ก็จะต้องสูงตามไปด้วย แต่เพราะ ASUS ให้แบตเตอรี่มาถึง 6,000 mAh สูงเป็นอันดับต้น ๆ ในท้องตลาด ทำให้เราสามารถใช้งานมันได้ทั้งวัน
ปัญหาของผู้ใช้โทรศัพท์ส่วนใหญ่จะทราบกันดีว่า แบตเตอรี่ของมือถือมีอายุการใช้งานของมัน เมื่อสุขภาพของมันค่อย ๆ ทดถอย หมายความว่าประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนจะต้องทดถอยตามมันเช่นกัน แต่ใน ASUS ROG Phone 2 พวกเขาใส่เครื่องมือหลายอย่างที่น่าจะช่วยเหลือแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้คงทนขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Power Saver, Super Saver และ Battery Care จากการทดลอง เราไม่ได้ใช้แบตเตอรี่เยอะขนาดที่ว่าจะตอบคำถามแบบชัด ๆ ได้ แต่คิดว่าน่าจะช่วยได้ค่อนข้างเยอะ
สำหรับชาร์จไว ตัวนี้มาพร้อมกับ HyperCharger 30W ที่ชาร์จได้เร็วทันใจ แต่อาจจะต้องใช้เวลานิดนึงเมื่อเทียบกับเรือธงรุ่นอื่น ๆ ไม่ใช่ว่าเพราะหัวชาร์จไม่ดีหรือ ROG Phone ด้อยกว่า มันเป็นเพราะว่าแบตของ ROG Phone 2 นั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปนั่นเอง (6,000 mAh)
กล้อง
ASUS ROG Phone 2 มาพร้อมกับกล้องหลัง 2 ตัว โดยตัวหลักจะเป็นกล้อง 48 ล้านพิกเซล พ่วงด้วย 13 ล้านพิกเซลแบบ Ultrawide ส่วนกล้องหน้าเป็นกล้องความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ซึ่งทั้งสองตัวนี้ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจน้อยที่สุดใน ROG Phone 2 เนื่องจากมันเป็นเสปกกลาง ๆ ของมือถือ ณ ปัจจุบัน แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะแย่จนเทียบกับสมาร์ทโฟนอื่น ๆ ในท้องตลาดไม่ได้เลย
จุดเด่นของ ROG Phone 2 คือการ Setup ที่ดี ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพได้ดีแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่พร้อมก็ตาม ตัวกล้องสามารถถ่ายได้ดีในที่มืด และถึงแม้ว่าจะไม่มีกันสั่นแบบออพติคอล การแสดงผลของภาพก็ยังออกมาสวยอยู่ดี
สำหรับคุณภาพในด้านวิดีโอ ตัว ROG Phone 2 สามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K ในแบบ 60fps ได้ และถึงแม้ว่าจะไม่มีกันสั่นแบบออพติคอล ก็ยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเทียบจำนวน FPS ของวิดีโอกับสมาร์ทโฟนเรือธงในท้องตลาดตอนนี้
ส่วนกล้องหน้า นอกจากความละเอียด 24 ล้านพิกเซลที่เป็นจุดเด่น เจ้าตัวนี้ยังถ่ายวิดีโอแบบ Full HD 60 fps ได้ แต่ข้อสังเกตคือมุมมองระหว่างเซลฟี่ ค่อนข้างแคบกว่ามือถือส่วนใหญ่
สรุป
ถ้าคุณต้องการจะเล่นเกม ไม่มีอะไรจะเหมาะสมไปกว่า ASUS ROG Phone 2 อีกแล้ว เพราะทั้ง CPU ทั้งโปรแกรมเสริม ทั้งแบตเตอรี่ รวมถึงกล้อง เรียกได้ว่าครอบคลุมการใช้งานทั้งหมดในฐานะเกมเมอร์ แต่สำหรับผู้ใช้งานพื้นฐานทั่วไป ตัว ROG Phone 2 ยังมีข้อสังเกตอยู่บ้าง แต่ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ขั้นสุดยอด ASUS ROG Phone 2 เหมาะกับคุณที่สุด