Atelier Ryza: Ever Darkness & The Secret Hideout เป็นเกม JRPG ที่เคยเป็นกระแสพูดคุยในคอมมูนิตี้เกมอย่างกว้างขว้างด้วยการดีไซน์ตัวละครเอกหญิงอันโดดเด่น แต่กระแสของตัวละครจะดีเท่ากับเกมทั้งหมดหรือไม่ มาพบกับบทความรีวิวได้เลย
บทนำ: ต้องบอกก่อน Atelier Ryza: Ever Darkness & The Secret Hideout (จากนี้จะเรียกย่อว่า “Atelier Ryza”) เป็นเกมที่ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นเกม Death Stranding กำลังใกล้วางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ ผู้เขียนจึงตัดสินใจซื้อเกม Death Stranding มาเล่นก่อน และหลังจากจบเกมแล้วก็ซื้อเกม Atelier Ryza มาเล่นโดยทันที นี่คือสาเหตุว่าบทความรีวิวเกมดังกล่าวถึงมาช้าครับ
Story
เนื้อเรื่อง Atelier Ryza ผู้เล่นได้รับบทเป็น Reisalin Stout หรือชื่อเล่นว่า Ryza หญิงสาวผู้เบื่อหน่ายกับการใช้ชีวิตประจำวันในเกาะอันเงียบสงบ เธอจึงตัดสินใจออกผจญภัยนอกชนบทร่วมกับเพื่อนสมัยเด็ก Lent และ Tao เพื่อค้นหาประสบการณ์สิ่งใหม่ แต่ระหว่างผจญภัย พวกเธอปะทะกับมอนสเตอร์ที่ไม่สามารถต่อกรกับมัน จนกระทั่งได้รับการช่วยเหลือจาก Empel และ Lila ด้วยทักษะเล่นแร่แปรธาตุที่เรียกว่า Atelier และนั่นคือจุดเริ่มต้นความใฝ่ฝันของเธอที่หวังใช้จะทักษะ Atelier ในการออกผจญภัยและช่วยเหลือชนบท
Atelier Ryza จะนำเสนอเนื้อเรื่องแนวผจญภัยกึ่ง Slice-of-Life (ชีวิตประจำวัน) กับ Coming of Age ที่เนื้อหาเต็มไปด้วยเรื่องราวอบอุ่นหัวใจ และมีโมเมนต์น่ารัก ๆ ตามประสาเกมอนิเมะ แม้จะมีบางช่วงของเกมที่เข้าสู่โหมดซีเรียสบ้างแต่ก็ไม่ได้มีเนื้อหาหนักจนเกินไป นอกจากนี้ ระหว่างการดำเนินเนื้อเรื่อง เราจะได้เห็นการพัฒนาการและประวัติพื้นหลังตัวละครแต่ละคน ทำให้เนื้อเรื่องของ Atelier Ryza สามารถเข้าใจง่าย มีความเพลิดเพลิน ที่สำคัญที่สุด ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องเล่นเกม Atelier ภาคก่อน ก็สามารถสนุกสนานกับเนื้อเรื่องเกมนี้
Presentation
หรือน้องขาเบียด ที่เชื่อว่าต้องเป็นตัวละครหญิงที่หลายคนชื่นชอบได้ไม่ยาก เพราะนอกจากการดีไซน์ที่สวยงามแล้ว เธอยังมีบุคลิกที่ดื้อ ร่าเริง และกล้าเผชิญต่อปัญหาอีกด้วย
ไม่ใช่ว่าเธอจะโดดเด่นอยู่เพียงลำพัง แต่รวมถึงสมาชิกกลุ่มเพื่อนอย่าง Lent, Tao กับ Klaudia ทุกคนล้วนมีเอกลักษณ์ส่วนตัวทั้งด้านการออกแบบกับลักษณะนิสัยทั้งสิ้น รวมถึงระหว่างการดำเนินเนื้อเรื่อง พวกเขามีพัฒนาการทั้งด้านความคิดจากการฝึกฝนกับการผจญภัย จึงทำให้ตัวละครมีการนำเสนอที่น่าสนใจตลอดเวลา
แน่นอนว่าตัวเกมมีฉากหลังเป็นแนวแฟนตาซี จึงทำให้การออกแบบสถานที่ต่าง ๆ ของเกม Atelier Ryza มีความโดดเด่นตระการตาสไตล์เกม JRPG ด้วยโทนสีสันที่สดใส ไม่ว่าเป็นทุ่งหญ้าอันเขียวขจี ท้องฟ้าสีคราม แสงแดดที่สอดส่องลงมาที่พื้นดิน หรือเสียงที่เต็มไปด้วยบรรยากาศธรรมชาติ พร้อมกับเพลงประกอบอันแสนสงบสุข ซึ่งช่วยเกมเมอร์ได้รู้สึกผ่อนคลายระหว่างการเล่นตลอดเวลา
ตรงกันข้ามกับการออกแบบมอนสเตอร์ของเกมที่ขาดความหลากหลาย โดยเฉพาะบอสไฟท์ที่ส่วนใหญ่มักเป็นบอสตัวเดิมแต่ถูกเปลี่ยนสีอย่างเดียว ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่บอสอย่างเดียว แต่รวมถึงมอนสเตอร์ตามพื้นที่ต่าง ๆ ก็ประสบปัญหาแบบเดียวกันอีกด้วย
Gameplay
ระบบที่จำเป็นต้องกล่าวถึงคือ AP หรือ Action Point ซึ่งทุกครั้งที่สมาชิกปาร์ตี้โจมตีมอนสเตอร์ ค่า AP จะเพิ่มขึ้นมาหนึ่งหน่วย ซึ่งค่า AP สามารถทำได้หลายอย่างตั้งแต่ใช้ Quick Action (ลัดคิวออกคำสั่งทันที) ออกท่าสกิล หรือเก็บสะสมจนเต็มหลอดเพื่ออัพ Tactics Level ที่สามารถเพิ่มการโจมตีอีกหนึ่งครั้งและปลดสกิลพิเศษ แต่หลอดเกจ AP สูงสุดก็เพิ่มึ้น ซึ่งทำให้การเก็บ AP นานยิ่งขึ้นตามมา
นอกจากนี้ ตัวเกมมี Core Crystal ที่ผู้เล่นสามารถติตตั้งไอเทมลงในคริสทัล โดยมีคุณสมบัติใช้ไอเทมได้ไม่มีทางสูญหาย แต่ทว่าทุกการใช้ไอเทมจะต้องการใช้ค่า Core Charge (หรือเรียกว่า CC) ซึ่งหากค่า CC ของผู้เล่นหมด ผู้เล่นต้องนอนหลับเพื่อฟื้นฟูพลัง หรือสำหรับกรณีที่เกมเมอร์ต้องตะลุยปราบมอนสเตอร์เป็นจำนวนมากหรือปะทะบอสไฟท์8 ผู้ต้องยอมสละไอเทมที่ติดตั้งใน Core Charge บางชนิด เพื่อฟื้นพลัง CC ให้กลับมาเต็มอีกครั้ง โดยไอเทมที่สละไปจะไม่สามารถใช้ได้จนกว่าจะนอนอีกครั้ง
ด้วยจุดเด่นของเกมเพลย์ที่กล่าวมา ระบบการต่อสู้ของ Atelier Ryza จึงมีความอิสรเสรีกับว่องไวกว่า Atelier ภาคก่อน รวมถึงหากเล่นเกมจนเข้าใจอย่างคล่องแคล่วแล้วจะให้ความรู้สึกว่าเป็น RPG ที่ชวนระทึกน่าตื่นเต้นอีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากระบบเกมเพลย์เป็น RPG เรียลไทม์ และมีฟีเจอร์หลายอย่างที่ต้องเรียนรู้มากมาย ก็อาจทำให้เกมเมอร์ทั่วไปรู้สึกเล่นลำบาก ไม่เข้าใจวิธีเล่น หรือวางแผนการต่อสู้ไม่ทันใจในช่วงแรก เพราะไม่มีคำสั่งหยุดเกมชั่วคราวระหว่างการต่อสู้ รวมถึง Tutorial ขาดการอธิบายที่ชัดเจนกับไม่มีการสาธิตต่อผู้เล่น ซึ่งก็หวังว่าเกมภาคหน้าจะมีการอธิบาย Tutorial ที่ดีกว่านี้ในภาคต่อไป
ฟังครั้งแรกอาจจะดูเป็นระบบการคราฟท์ที่ซับซ้อน แต่โชคดีที่เกมมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง UI กลายเป็นชาร์ต เป็นการช่วยเกมเมอร์หน้าใหม่สามารถเข้าใจขั้นตอนการสร้างง่ายขึ้น รวมถึงตัวเกมมีปุ่ม “Auto Assign” ให้ตัวเกมเลือกส่วนผสมเองตามอัตโนมัติ ก็ต้องเลยว่าช่วยรักษาเวลาไว้ได้มากเลยทีเดียว
ส่วนผสมทั้งหมดจะได้มาจากการฟาร์มเช่น ทำลายกล่อง, ตัดต้นไม้, เด็ดดอกไม้, เก็บผลไม้, ตีมอนสเตอร์, ตกปลา และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งส่วนผสมเกือบทั้งหมดสามารถหาได้ระหว่างการผจญภัยทั้งในเมืองและนอกเมือง ยกเว้นแต่ส่วนผสมพิเศษบางชิ้นที่อาจหาได้เฉพาะร้านค้าหรือเควสต์ย่อยในช่วงต้นเกม เกมเมอร์จึงต้องขยันแวะเก็บส่วนผสมเกือบตลอดเวลา เพื่อนำส่วนผสมไปคราฟท์ไอเทมที่จำเป็นหรือนำไป Rebuild (สร้างใหม่) ให้ดียิ่งขึ้น
ด้วยองค์ประกอบดังกล่าว ทำให้ระบบคราฟต์ Atelier Ryza ชวนติดพันเป็นอย่างมาก ก็ต้องยอมรับเลยว่าผู้เล่นเสียเวลาเพลิดเพลินไปหนึ่งชั่วโมง เพื่อพยายามสร้างไอเทมชนิดใหม่หรืออุปกรณ์ที่ดีที่สุด ถ้าหากเกมเมอร์ชื่นชอบระบบการคราฟท์ ท่านจะต้องหลงรักเกมนี้แน่นอน
ถึงอย่างนั้น Atelier Ryza ก็ไม่ได้เป็นเกมสมบูรณ์แบบไปซะหมดเมื่อมาถึงจุดของเควสต์เสริม ก็จริงอยู่ที่ Atelier Ryza มีเนื้อเรื่องหลักเป็นการผจญภัยที่ชวนผ่อนคลายหัวใจ และเควสต์เสริมเป็นตัวช่วยเติมเต็มสีสันโลกเกมให้ NPC ได้มีปฏิสัมพันธ์ต่อ Ryza เหมือนเป็นชาวเมืองคนหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่เควสต์เสริมนั้นขาดความคิดที่สร้างสรรค์ไปหน่อย เพราะเควสต์ส่วนใหญ่เป็นการส่งของ เดินพูดคุยทั่วเมือง ให้ไอเทม และคราฟท์ไอเทมซะส่วนใหญ่ เนื้อหาเควสต์จึงไม่ค่อยมีโมเมนต์อะไรน่าจดจำ นอกเหนือจากมีของรางวัลเป็นเงิน ส่วนผสมพิเศษ และปลดล็อกหลักสูตรคราฟท์ไอเทมเท่านั้น
Performance
ก็ต้องบอกก่อนว่าบทความนี้ รีวิวเกมด้วยเครื่อง PlayStation 4 Pro ซึ่งมีประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์จำกัด จึงทำให้เกมโดนบังคับต้องเล่นความละเอียดภาพระดับ 1080p 30 FPS เท่านั้น และไม่สามารถตกแต่งภาพกราฟิก แต่ทว่าประสบการณ์การเล่นเกมก็ถือว่ารันได้ลื่นไหลโดยไม่มีอาการเฟรมเรตตก ไม่มีช่วงเวลาที่เครื่องเกมทำงานหนักจนส่งเสียงดัง หรือวัตถุในเกมโหลดไม่ทัน
นอกจากนี้ ตัวเกมสามารถโหลดไวมาก ๆ หากเปรียบเทียบกับเกม RPG เกมอื่น โดยเกมนี้จะใช้เวลาราว 1-2 วินาทีในการโหลดเข้าเกม เข้าฉากคัตซีน หรือเดินข้ามฉากไปอีกฉากหนึ่ง ก็ต้องบอกเลยว่าระหว่างการเล่นแทบไม่มีเวลาให้พักเล่นโทรศัพท์ระหว่างโหลดเกม
และสุดท้ายแล้ว หลังจากใช้เวลาเล่นเกมผ่านไปราว 15 ชั่วโมงแล้ว ก็ยังไม่พบกับปัญหาบั๊กกวนใจหรือเกมทำงานผิดพลาดจนเกิดอาการ Crash สักครั้งเดียวอีกด้วย เพราะฉะนั้นก็สรุปได้ว่า Atelier Ryza เวอร์ชัน PlayStation 4 สามารถสอบผ่านด้านการ Performance กับ Optimized เป็นอย่างดี
สรุป
Atelier Ryza: Ever Darkness & The Secret Hideout นับเป็นเกม JPRG ที่มีการยกระดับปรับปรุงหลายอย่างให้เข้ากับเกม RPG ยุคใหม่จากการออกแบบระบบคราฟต์ที่ลึกแต่เข้าใจง่าย และระบบ RPG ไฮบริดที่ยืดหยุ่นกว่าทุกภาค แต่ตัวเกมก็ยังคงรักษาความเป็น Atelier ด้วยเนื้อเรื่องสนุกสนานชื่นบาน อาร์ตสไตล์สดใส รวมถึงตัวละครเอกหญิง Ryza ก็มีความน่าเอ็นดูหรือเอาใจช่วย ทำให้ประสบการณ์ที่ได้รับจากการเล่นเกมนี้จึงล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยความเพลิดเพลิน และสามารถเข้าถึงง่าย
ถ้าหากเกมเมอร์อยากลองเข้าถึงซีรีส์ Atelier เป็นครั้งแรก หรือกำลังมองหาเกม JRPG เนื้อหาสบายไม่ซีเรียส Atelier Ryza: Ever Darkness & The Secret Hideout คือตัวเลือกที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้
ข้อดี
- เนื้อเรื่องการผจญภัยชวนเพลิดเพลิน
- ตัวละครเอก Ryza และเพื่อน ๆ มีความน่าจดจำ เป็นที่ชื่นชอบได้ง่าย
- ระบบการต่อสู้แบบใหม่ มีความระทึกและน่าตื่นเต้น
- การเล่นแร่แปรธาตุเข้าใจง่ายแต่ล้ำลึก
- วิชวลเอฟเฟกต์สวยงาม งานอาร์ตมีเอกลักษณ์
ข้อเสีย
- เนื้อเรื่องบางช่วงยืดเกินความจำเป็น
- เควสต์เสริมขาดความสร้างสรรค์
- Tutorial ขาดการอธิบายที่ชัดเจน
- การออกแบบมอนสเตอร์ขาดความหลากหลาย
คะแนน: 8/10
