หลังจากที่รอคอยมานานสำหรับ Forza Horizon 4 ตั้งแต่งาน E3 2018 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนได้สัมผัสเกมแข่งรถซีรี่ส์ Forza และแน่นอนว่าได้ยินชื่อเสียงของ Forza Horizon 3 มามากมายว่าเป็นสุดยอดเกมอาร์เคดเรซซิ่งที่ดีที่สุด หลังจากได้เล่น บอกตรง ๆ เลยว่าเกมนี้ได้สร้างประทับใจแก่ผู้เขียนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นปริมาณเนื้อหา กราฟิก เกมเพลย์ และการนำเสนอ
นี่คือรีวิว Forza Horizon 4 เกมแข่งรถสไตล์อาร์เคดเปิดโลกกว้างที่ยอดเยี่ยมที่สุดในปี 2018
Spec PC ที่ใช้ทดสอบ :
- OS : Windows 10
- Motherboard : Gigabyte GA-B250M-HD3
- CPU : Intel(R) Core(TM) i5-6600K CPU @ 3.50GHz (4 CPUs), ~3.5GHz
- GPU : Gigabyte Nvdia Geforce RTX 2080 Gaming OC 8GB
- Memory : 16GB
- Storage : Gigabyte UD PRO 256GB
ตะลุยซิ่งเกาะอังกฤษตอนเหนือให้ฟีลลิ่งราวบ้านเกิด
ถ้าคุณเป็นคนที่หลงใหลในประเทศอังกฤษเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คุณจะต้องหลงรักเกมนี้อย่างแน่นอน เพราะ Forza Horizon 4 จะนำเสนอในสิ่งที่เกมเมอร์คาดหวังว่า ‘ควรจะมี’ ในประเทศอังกฤษได้ครบถ้วนที่สุด ไม่ว่าจะเสียงพากย์สำเนียงภาษาอังกฤษ การสื่อบรรยากาศโดยรวม การออกแบบแผนผังในส่วนของชนบทและเมืองสีสันสไตล์ยุโรปและไม่จืดชืด รถสัญจรไปมาในเกมเป็นรถยนต์ที่นิยมในเกาะอังกฤษ เช่น Mini Cooper, Mercedes-Benz และอื่น ๆ หรือแม้กระทั่งเพลงประกอบวิทยุมีหลากประเภทหลากอารมณ์ (โดยเฉพาะเพลงประเภท Drum ‘n Bass ที่ฟิตกับเกมนี้มากที่สุด)
ยอมรับเลยว่า Turn 10 Studios และ Playground Games ทำการบ้านในส่วนนี้ดีกว่าภาคก่อนในเรื่องเกี่ยวกับความใส่ในรายละเอียดบนเกม Open World ถึงแม้ว่าปริมาณของแผนที่จะไม่ได้ใหญ่โตเทียบเท่ากับเกมเปิดโลกชั้นนำอย่าง Grand Theft Auto V แต่เพราะสเกลที่เล็กกว่า ทำให้ทีมงานสามารถจัดเต็มรายละเอียดของแผนที่ได้มีคุณภาพเพอร์เฟ็ค ซึ่งเป็นงานถนัดของเกม Forza ที่เคยมีประสบการณ์จากการทำเกมจากภาค Motorsport มาแล้ว
แผนที่ในเกม Forza Horizon 4 จึงน่าดึงดูดและมีเอกลักษณ์ ราวกับสแกนแผนที่มาเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวเกาะอังกฤษมาให้ผู้เล่นได้สัมผัสผ่านวีดีโอเกมจริง ๆ ซึ่งเพียงแค่ขับรถชมวิวหรือถ่ายรูป Photo Mode เพียงเท่านี้ก็คุ้มค่าแล้ว เป็นอีกหนึ่งเกมที่พิสูจน์ว่าบางครั้งอะไรที่ใหญ่เกินไป ไม่ได้ทำให้เกมน่าค้นหาเสมอไป (ใช่แล้ว ผู้เขียนหมายถึงเกม The Crew 2)
แต่ทว่าเกมนี้มีข้อเสียเล็กน้อยอยู่บ้างก็คือ ระบบการซื้อบ้านในเกมที่เหมือนซื้อจุด Save เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง เพราะผู้เล่นสามารถสัมผัสบ้านได้เพียงแค่มองจากภายนอกเท่านั้น ผู้เขียนอาจจะดูเรื่องเยอะไปหน่อย แต่เพราะมีตัวอย่างเกมแข่งรถเปิดโลกกว้างที่สามารถซื้อบ้านแล้วได้อารมณ์เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จริง ๆ นั้นก็คือเกม Test Drive Unlimited (2006)
เป็นเรื่องที่เสียดายไม่น้อยเหมือนกันสำหรับระบบครอบครองที่ดิน เพราะบ้านแต่ละหลังมีราคาแพงใช้ได้ และสาเหตุหลักที่ซื้อที่ดินมีเหตุผลเดียวคือ เอา Horizon Super Wheel Spin (มันคืออะไรเดี๋ยวบอกอีกทีในช่วงเกมเพลย์) ซึ่งมันดูจ่ายเกินตัวไปหน่อยในความคิดเห็นส่วนตัว
กราฟิกสวยงามเป็นธรรมชาติ และผ่าน Optimized มาดีเยี่ยม
เหมือนที่กล่าวไปในตอนแรก เกม Forza Horizon 4 เป็นเกมที่มีนำเสนอได้ยอดเยี่ยมสุด ๆ ต้องขอบคุณภาพกราฟิกที่สามารถดึงประสิทธิภาพได้สูงสุดเท่าที่จะทำได้ แต่สิ่งที่ทำให้เกมนี้ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมาก คือระบบ Dynamic Seasons หรือระบบเปลี่ยนฤดูกาล โดยมีทั้งหมด 4 ฤดูกาล คือ Summer, Spring, Autumn และ Winter ซึ่งฤดูจะเปลี่ยนแปลงทุกการแข่งขันประจำฤดู
สิ่งที่ระบบ Dynamic Seasons ตัวนี้ไม่ธรรมดา เพราะว่านอกจากทำให้เกมมีบรรยากาศมีชีวิตชีวาแล้ว ยังส่งผลต่อสภาพแวดล้อมแผนที่ภายในเกมทั้งหมดอีกด้วย อย่างเช่น ฤดูหนาวหิมะตกจะทำให้แม่น้ำแปรสภาพเป็นน้ำแข็ง กลายเป็นสนามแข่งรถพิเศษประจำฤดู หรือฤดูใบไม้ผลิที่จะทำให้สนามแข่งรถแบบวิบากเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสวยงาม และมีสภาพอากาศฝนตกแดดออกหลายครั้ง เป็นต้น เนื่องจากสภาพแวดล้อมทั้งหมดจะส่งผลต่อการขับรถอย่างชัดเจน ทำให้ผู้เล่นต้องคอยปรับเปลี่ยนสไตล์การขับหรือแต่งจูนรถอย่างสม่ำเสมอีกด้วย
มาว่าด้วยเรื่อง Performance กันบ้าง ถึงแม้ว่าสำหรับแพลตฟอร์ม PC เกมนี้จะใช้สเปคที่โหดพอสมควร แต่มันก็แฟร์ เพราะว่าเกมนี้ได้ผ่าน Optimized อย่างดีเยี่ยม เกมเมอร์สามารถปรับแต่งภาพกราฟิกได้หลากหลายออฟชั่น หรือผู้เล่นจะใช้ระบบ Dynamic Optimisation ที่เกมปรับเปลี่ยนภาพกราฟิกแบบอัตโนมัติ
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทดสอบเล่นมีสเปค CPU: Intel Core i5-6600K 3.50 GHz และการ์ดจอ Nvidia RTX 2080 ซึงสามารถเล่นได้ระดับ ULTRA ด้วยความละเอียดหน้าจอระดับ 1920×1080 และลื่นไหล 60 FPS ตลอดทั้งเกมที่แม้ว่าตัว CPU จะไม่ถึงขั้นระดับสูงสุดก็ตาม แต่ว่าบางครั้งผู้เขียนได้พบเจอเกมสะดุดในเสี้ยววินาทีหรือเกมโหลดแผนที่ไม่ทันอยู่บ้าง (พบแค่ครั้งเดียว) แต่โดยรวมแล้วเป็นบัคที่ไม่ทำให้สูญเสียอรรถรสในการเล่นเกมครับ
ทีมงาน Forza Horizon 4 ให้สโลแกน Dynamic Seasons ว่า ‘Seasons Change Everything’ (ฤดูกาลจะเปลี่ยนทุกสิ่ง) เพราะว่าในแต่ละฤดูกาลจะส่งผลทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอบรรยากาศ ฟิสิกส์การขับรถ และอีเว้นท์พิเศษประจำฤดู ซึ่งทีมงานสามารถทำได้จริงไม่ได้โม้
ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นได้ฟรีสไตล์ เกมเพลย์สนุก อีเว้นท์น่าตื่นเต้น
ในเกม Forza Horizon 4 จะมีอีเว้นท์มากมายให้เลือกเล่นหลายประเภท และแทบทุกสนามจะผ่านการออกแบบให้การแข่งขันมีความตื่นเต้นเร้าใจอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะระบบการสร้างอีเว้นท์ที่จะให้เกมเมอร์สามารถเลือกประเภทรถแข่งขันและเปลี่ยนชื่ออีเว้นท์ได้ตามใจอยาก รวมไปถึงตัวเกมให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งระดับความยากได้หลากหลายทั้งความยากของ A.I. และระบบช่วยเหลือ Assist ภายในเกม ซึ่งยิ่งท้าทายมากเท่าไหร่จะยิ่งให้เปอร์เซ็นต์รางวัลมากขึ้นเท่านั้น เป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนร้อนเงินและผู้เล่นต้องพัฒนาฝีมือของตนเอง
แต่สิ่งที่พลาดไม่ได้ คืออีเว้นท์ Showcase ที่จะให้ผู้เล่นได้แข่งขันแบบ Head to Head ดวลกับยานพาหนะพิเศษ ไมว่าจะเป็นเครื่องบินเจ็ท, Hovercraft และอื่น ๆ ที่จะให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์การแข่งขันที่เร้าใจสุด ๆ แบบไม่เคยมีมาก่อน
ในส่วนของระบบเกมเพลย์ ผู้เล่นจะต้องเปิดวาร์ปนั่งติดเก้าอี้เล่นเกมข้ามเวลาได้ถึง 4-6 ชั่วโมงต่อวันอย่างแน่นอน เนื่องจากระบบ Progressions ของเกมนี้จะเน้นการ Grinding เป็นหลักแต่กลับไม่รู้สึกน่าเบื่อแม้แต่นิดเดียว เพราะว่าเกมนี้มีระบบเลเวลที่จะแบ่งออกเป็นสองช่อง คือหลอดเลเวลประเภทของการแข่งขัน (ซึ่งจะแตกย่อยออกไปและมีรางวัลที่แตกต่างกัน) และหลอดเลเวลของตัวละครจะเก็บเป็นค่าประสบการณ์จากการแข่งขันทั้งหมด ซึ่งทุกเลเวลการอัพของตัวละคร ผู้เล่นจะได้รับรางวัลเป็น Horizon Wheel Spin เพื่อสุ่มรางวัลจากการหมุนล้อ ไม่ว่าจะเป็นเงิน, รถยนต์, Emote หรือเครื่องแต่งกายที่จะแยกระดับความแรร์เป็น Common, Rare, Epic และ Legendary ตามลำดับ
การปรับแต่งรถยนต์สามารถทำได้ทั้งจูนและตกแต่งรูปลักษณ์ภายนอกได้อิสระเช่นกัน ซึ่งทุกส่วนประกอบจะให้ทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป จะต้องการแบบไหนขึ้นอยู่รสนิยมและสไตล์การขับรถครับ
แต่ไม่ใช่ว่า Horizon Wheel Spin จะได้จากการเลเวลอัพอย่างเดียว แต่จะได้จากการทำ Progressions ของตัวรถยนต์และทำ Achievement ผ่าน Horizon Life อีกด้วย ใช่แล้ว! รถยนต์ทุกคันจะการระบบการอัพ Perk เป็นของตัวเอง ส่วนวิธีอัพสกิลคือผู้เล่นต้องสะสมเกจวงกลมรูปดาวให้เต็ม โดยวิธีรับคะแนนคือผู้เล่นต้องขับรถแบบเสี่ยงอันตรายอย่างเช่น ขับเร็ว ดริฟท์ ทำลายชนข้าวของ หรือทำกิจกรรมเสริมอื่น ๆ อย่าง Speed Zone และ Danger Signs Jump
การหมุนรางวัลจะมีอีกรูปแบบหนึ่งเรียกว่า Horizon Super Wheel Spin เป็นการหมุนสามรอบในครั้งเดียว ซึ่งรางวัลนี้จะได้รับจากการซื้อบ้าน, ทำ Achievement ระดับยากจาก Horizon Life และซื้อผ่านระบบ Microtransections
Microtransections ของเกมนี้จะเรียกว่า Forzathon Shop มีหน่วยเงินเรียกว่า ‘Forzathon Points’ ผู้เล่นจะได้รับเงินในส่วนนี้มาจากการเล่น Multiplayer และเติมเงินด้วยเงินจริง ซึ่งในร้านค้าจะเสนอโปรโมชั่นพิเศษให้ผู้เล่นมีโอกาสได้ปลดล็อครถยนต์, Emote และเครื่องแต่งกายพิเศษ หรือคุณจะนำเงินเหล่านั้นไปซื้อ Horizon Wheel Spin เพื่อสุ่มกาฉาให้เกลือกันไปตามระเบียบ
แต่ผู้เขียนได้วิเคราะห์แล้วว่า Microtransections ในเกมนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการเล่นเกมอย่างแน่นอน (ในตอนนี้) เพราะประสิทธิภาพของรถยนต์พิเศษนั้นไม่ได้โอเวอร์พาวเวอร์เลย เพราะว่ารางวัลส่วนใหญ่ค่อนข้างเหมาะกับการสะสมและรางวัลรถยนต์บางคันสามารถซื้อได้ด้วยเงินภายในเกม เพราะฉะนั้นเคสนี้ถือว่าเป็นกรณียกเว้นครับ
คอมมูนิตี้ในส่วนออนไลน์หนักแน่นมาก
ในส่วนของระบบ Multiplayer ของเกม Forza Horizon 4 ยังคงรักษามาตราฐานได้ดี โดยเกมจะรองรับผู้เล่นมากถึง 72 คนต่อหนึ่ง Session แต่เกมนี้จะมีอีเว้นท์ Multiplayer แบบใหม่เรียกว่า Forzathon Live เป็นระบบ CO-OP ซึ่งผู้เล่นกับเพื่อนร่วมทีมจะต้องทำตาม Objective ต่าง ๆ ซึ่งความท้าทายยังไม่สุดเท่าไหร่และเรียบง่ายเกินไป แต่ระบบการแข่งขันทั่วไปเป็นมิตรต่อผู้เล่นมากขึ้น เพราะผู้เล่นจะไม่สามารถชนรถของคู่แข่งให้เสียหลักและสามารถป้องกันการก่อกวนได้อีกด้วยเช่นกัน
แต่สิ่งน่าประหลาดใจมากที่สุดก็คือเรื่องของ HUB Community ของ Forza Horizon 4 มีความครอบคลุมในทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นการหารายได้เงินในเกมด้วยการเปิดประมูลขายรถ, แชร์ Preset การปรับจูนแต่งรถ, ปล่อยลายรถยนต์ที่ผู้เล่นได้สร้างสรรค์ขึ้นมาสามารถดาวน์โหลดได้ตามอิสระ หรือในรายวันจะมีดีลรถยนต์ลดราคาพิเศษเพื่อให้เกมเมอร์สามารถครอบครองรถคันโปรดได้ง่ายยิ่งขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องพึ่ง Microtransections