หลังจากมีข่าวว่าทาง Sony จะผลิต PlayStation Classic ออกมาเพื่อเอาใจพวกเด็กโข่งทั้งหลายที่เรียกร้องความเป็น Retro ในทศวรรษนี้ ทาง GamingDose ก็เอาแต่เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่เครื่องเกมเครื่องนี้จะออกวางจำหน่ายเสียที และล่าสุดไม่กี่วันมานี้ เครื่องเกมที่เราเฝ้าฝันก็ออกวางจำหน่าย พวกเราก็เลยรีบไปซื้อหามาเล่นทันที
สัมผัสแรกหลังจาก Unpack คือการ Unpack ซ้ำ ๆ ถึงสามรอบจนกว่าจะเห็นตัวเครื่องของจริง ตัวเครื่องของจริงเล็กกว่าที่เราคิดมาก ๆ เรียกได้ว่าใช้มือข้างเดียวจับได้สบาย ๆ ตัวเครื่องยังแถมสาย HDMI และคอนโทรลเลอร์แบบคลาสสิกมาให้อีก 2 ชิ้น เรียกได้ว่าไม่ต้องไปหาซื้ออุปกรณ์จากที่อื่นให้วุ่นวาย แถมมาให้ครบจริง ๆ
พอเริ่มเปิดเครื่อง เราก็พบกับหน้าจอและเสียงอันคุ้นเคย แต่รอบนี้ไม่ได้มาในแบบที่เราต้องลุ้นเหมือนเมื่อก่อน รอบนี้เปิดยังไงก็ติด เพราะตัวเครื่องไม่ได้ใช้ระบบแผ่นในการเล่นแล้ว แต่จะเพิ่มเกมเข้ามาในเครื่องและรันเกมผ่านตัวเครื่องแทน ฉะนั้นพวกปัญหาเกมค้างจนต้องกลับหัวเล่นคงไม่มีแน่นอน
เมื่อกดเข้าเกมก็จะพบว่าตัวเกมไม่ได้ปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมกับสมัยนิยมแต่อย่างใด สังเกตง่าย ๆ ที่ตัวกราฟิกของเกมที่ยังเป็นโพลิกอน และขนาดหน้าจอที่ยังเป็นแบบ 4:3 ไม่ใช่ 16:9 เวลาที่คุณเล่นก็เลยจะเหลือขอบดำอยู่ข้าง ๆ แต่ถ้าเล่นจนชินแล้วก็ไม่ใช่ปัญหาที่หนักหนาอะไรมาก
เสียงที่ออกจากตัวเครื่องยังเป็นเสียงแบบ Mono เหมือนเดิม หลายคนอาจรู้สึกแปลก ๆ เพราะระบบเสียงในปัจจุบันใช้ระบบ Stereo หมดแล้ว เสียงที่ออกมาจะเป็นเสียงโทนเดียวไม่มีมิติ เท่ากันทั้งซ้ายขวา ก็ถือเป็นกลิ่นอายเก่า ๆ ที่ดูมีเสน่ห์ดี
ทางทีมงานลองเปิด Tekken 3 เล่น ตัวเกมให้ความรู้สึกเหมือนเมื่อ 21 ปีที่แล้วทุกอย่าง ต่างกันเพียงแค่เราในตอนนี้เริ่มคุ้นชินกับเฟรมเรตที่สูงกว่า 60 แล้ว พวกเราก็เลยรู้สึกว่าตัวเกมมันช้าแถมหน่วงเอามาก ๆ ทั้งที่ความจริงแล้วมันก็เป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่แรก
ข้อดีที่สัมผัสถึงได้ทันทีคือความที่มันเล็ก น้ำหนักเบา ทำให้เราสามารถแบกไปไหนมาไหนก็ได้ ไม่ว่าจะขึ้นรถ ลงเรือ นั่งเครื่องบิน เจ้า PlayStation Classic ก็ไม่สร้างปัญหาใด ๆ เพราะตัวเครื่องหนักเพียงแค่ 170 กรัมเท่านั้น อีกอย่างคือด้วยความที่ตัวเครื่องมันเล็ก มันก็เลยไม่ได้ต้องการพื้นที่อะไรมากมาย เอาไปวางตรงไหนก็ได้ ถ้าคุณไม่กังวลเรื่องสายคอนโทรลเลอร์
ข้อเสียของเจ้าเครื่องนี้ก็ใช่เล่น อย่างแรกคือเรื่องสายคอนโทรลเลอร์ ตอนแรกเราคุยกันเล่น ๆ ว่าตัว PlayStation Classic น่าจะใส่บลูทูธสำหรับจอยเข้ามานะ แต่เมื่อพิจารณาในเรื่องราคาแล้ว ก็พอเข้าใจอยู่ว่าใส่มาไม่ได้ ถ้าใส่มาราคาเครื่องคงจะแพงกว่านี้อยู่เท่าตัว อย่างที่สองคือจำนวนเกมที่ใส่เข้ามาในเครื่องมันน้อย แถมไม่ใช่เกมที่คนไทย (ส่วนมาก) คุ้นเคย พวกเราคิดว่าคนไทยคงจะคาดหวังให้มันมีเกมพวก Harvest Moon, Chocobo Racing, Dokapon, Bloody Roar 2 หรืออะไรก็ตามแต่ที่คนไทยชอบเล่น แต่อย่าลืมว่าเครื่องนี้ไม่ได้กะจะทำตลาดในไทยอยู่แล้ว แถมสมัยก่อนเราเล่นเกมแบบผิดลิขสิทธิ์ทั้งนั้น ทำให้ยอดขายของเกมเหล่านี้ในบ้านเราไปไม่ถึงผู้พัฒนา ส่งผลให้เราไม่ได้เล่นเกมที่อยากเล่นในเครื่องนี้
ถ้าถามเราว่าคุ้มไหม ? PlayStation Classic อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างคุ้มค่าสำหรับคนที่ต้องการย้อนวัย คนที่ต้องการซื้อไปสะสม ต้องการซื้อไปเป็นของขวัญ แต่จะไม่คุ้มถ้าคุณต้องการคอนโซลมาเพื่อเล่นเกมเป็นประจำ และจะไม่คุ้มยิ่งกว่าถ้าคุณไม่อินกับเกมเก่า ๆ เหล่านี้ เพราะเงินเกือบ 4,000 ที่ต้องจ่ายไป สามารถซื้อเกม AAA ในปัจจุบันมาเล่นได้เกือบ 4 เกม ฉะนั้นลองชั่งน้ำหนักให้ดี ว่าคุณพร้อมที่จะจ่ายเงินจำนวนนี้ เพื่อความทรงจำในวัยเด็กหรือเปล่า…