เมื่อสมัยก่อน ตลาดคอนโซลเป็นตลาดเพียงที่เดียว ที่เหล่าเกมมิ่งเกียร์ไม่สามารถเจาะกลุ่มเข้าไปได้ เนื่องจากในช่วงนั้นทางผู้พัฒนาคอนโซลไม่ค่อยรับ Third Party ในด้านอุปกรณ์เท่าไหร่ ทำให้ฮาร์ดแวร์ของแท้จากบริษัทคือสิ่งที่ดีที่สุด แต่พอเริ่มเข้าเจนใหม่ของคอนโซล พวกเขามองว่าการเปิดให้มี Third Party สำคัญกว่าเดิม ทำให้ ปัจจุบัน เราจึงเห็นแบรนด์เกมมิ่งเกียร์ต่าง ๆ ทำเกมมิ่งเกียร์ของคอนโซลออกมาจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่ Razer แบรนด์เกมมิ่งเกียร์อสรพิษเขียว แบรนด์ยอดนิยมสำหรับเกมเมอร์ไทย
วันนี้พวกเรา GamingDose เลยหยิบคอนโทรลเลอร์ PS4 รุ่นใหม่อย่าง Razer Raiju Ultimate สุดยอดคอนโทรลเลอร์สำหรับเกมมิ่งมารีวิว จะเจ๋งแค่ไหนไปดูกันเลยจ้า
รูปลักษณ์
มาคุยกันเรื่องภายนอกกันก่อน ตัว Razer Raiju Ultimate ใหญ่กว่าคอนโทรลเลอร์ PS4 ธรรมดาอยู่ค่อนข้างเยอะ มีน้ำหนักมากแต่สมดุล ในด้านปุ่มเป็นปุ่มพลาสติกแบบที่กดแล้วไม่นูนลงไป ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำหนักมากในการกด ลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น พร้อมใส่ปุ่มพิเศษเพิ่มมาอีกสองปุ่ม ที่จะช่วยให้คุณกดคอมมานต์แปลก ๆ ได้ง่ายขึ้นกว่าปกติค่อนข้างมาก ด้านล่างของจอยมีปุ่มเพิ่มมาอีก 4 ปุ่ม โดยปุ่มแรกใช้แสดงสถานะการเชื่อมต่อ รวมถึงแสดงสีโปรไฟล์ (ที่จะอธิบายในภายหลัง) ด้วย ปุ่มที่สองจะเป็นปุ่มที่เอาไว้เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่น Raiju เพื่อตั้งค่าบนมือถือ ปุ่มที่สามจะเป็นปุ่ม lightning ส่วนปุ่มที่สี่จะเป็นปุ่มล็อค ส่วนด้านบน Touch Pad มีไฟ RGB วิ่งไปวิ่งมา โดยคุณสามารถกดปุ่ม lightning ที่เรากล่าวไว้ก่อนหน้านี้เพื่อเปลี่ยนสไตล์ไฟได้ นอกจากนี้ยังมีปุ่ม D-pad สองสไตล์ พร้อมก้านอนาล็อก 2 ชิ้นไว้เปลี่ยน โดยอุปกรณ์แต่ละอย่างจะให้ประโยชน์ต่างกัน เช่น ก้าน Analog ยาว จะให้ประโยชน์ในการเล่นเกมแนว Shooting อย่างมาก เพราะมันจะช่วยให้การเคลื่อนไหวอนาล็อกน้อยลง ส่งผลให้ความแม่นในการยิงเพิ่มขึ้นมาก
การใช้งาน
ผู้เขียนลองใช้ราว ๆ 2 วัน พบว่าต้องปรับตัวจากปกตินิดนึง เนื่องจากคอนโทรลเลอร์ปกติของ PS4 มีน้ำหนักไม่เยอะ แต่ตัว Razer Raiju Ultimate มีน้ำหนักเยอะมาก ทำให้การนอนเล่นของผู้เขียนทำได้ไม่นาน ก็เลยต้องลุกมานั่งเล่นบนโซฟาแทน ปุ่มที่เพิ่มให้มา 4 ปุ่มมีประโยชน์มาก ๆ สำหรับเกมยิงก็ช่วยให้คุณกดกระโดด+วิ่งได้ในบางเกมโดยที่ไม่ต้องเอื้อมมือไปกดปุ่ม เพียงแค่กดปุ่มที่เพิ่มให้มาด้านหลังเท่านั้น สำหรับเกมต่อสู้ก็กดท่าได้ง่ายขึ้นเพราะ D-pad ที่แถมมาให้ เรียกได้ว่าคอนโทรลเลอร์อันเดียวทำให้ฝีมือเปลี่ยนไปจนเพื่อนชมเลยทีเดียว
แต่สำหรับเกม RPG อาจจะมีปัญหานิดนึง ตรงที่เกมพวกนี้มันจะใช้เวลาเล่นนานมาก ๆ กลายเป็นว่าน้ำหนักของ Razer Raiju Ultimate กลายเป็นร้ายมากกว่าดี เพราะเราคงไม่อยากจะมานั่งถืออะไรหนัก ๆ เป็นเวลานาน ๆ หรอก ยิ่งเกมกีฬาที่ต้องการการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วยิ่งแย่ไปใหญ่ ข้อเสียอีกจุดคือปุ่ม R1 L1 ดูตื้นไปหน่อยถ้าเทียบกับปุ่ม R2 L2 ที่แหลมออกมา ทำให้ในบางครั้งจังหวะของการกดจะดีเลย์อยู่ช่วงหนึ่ง แต่ช่วงหนึ่งนี่แหละจะเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายได้เลยหากคุณเล่นเกมประเภทเกมต่อสู้หรือเกมกีฬาอยู่