Sennheiser G4ME ONE รักเราไม่เก่าเลย
วันนี้ขออนุญาตนำหูฟังที่ออกมานานแล้วอย่าง Sennheiser G4ME ONE ออกมารีวิวกับเขาบ้าง ซึ่งผมเองก็ได้ยินมานานแล้วว่าทาง Sennheiser เองนอกจากจะครองตลาดกินนิ่มในกลุ่มหูฟังแล้วยังขยับมาจับกลุ่มคนเล่นเกมด้วย งานนี้ต้องลองซะหน่อยแล้ว
ต้องออกตัวตั้งแต่ตรงนี้เลยว่าผมเองก็เป็นแค่เกมเมอร์ที่เล่นเกมทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่นักรีวิวหูทองดังนั้นรีวิวอาจจะออกมาบ้านๆ ไปสักหน่อย ต้องขออภัยกันมา ณ ที่นี้ครับ
เริ่มกันที่สเปคหูฟังกันก่อน
ก่อนที่เราจะไปรู้จักกับหูฟังตัวเทพอันนี้ มาดูสเปคของมันกันก่อนครับ
- Impedance Headphones: 50 Ω
- Connector 2 x 3.5 mm (PC/Mac) & 1 x 3.5 mm (Console)
- Frequency response (microphone) Microphone: 50-16,000Hz
- Frequency response (headphones) Headphone: 15-28,000 Hz
- Sound pressure level (SPL) Headphone: 116dB
- Ear coupling Headphones: around-the-ear, open acoustic design
- Cable length 3 m (PC/Mac) & 1.2 m (Console)
- Weight 300 g
- Pick-up pattern Microphone: Noise Cancelling
- Sensitivity Microphone: -38 dBV at 94 dBSPL
ดีไซน์ที่เรียบหรูและตอบโจทย์เกมเมอร์
ดีไซน์ด้านนอกของ Sennheiser G4ME ONE นั้นถูกออกแบบมาด้วยสีดำตัดแดงแสดงออกถึงการเป็นรุ่นเพื่อเกมเมอร์ได้เป็นอย่างดี ตัววัสดุเป็นพลาสติกได้มาตรฐาน จับแล้วไม่รู้สึกก๊องแก๊งหรือพังง่ายเท่าไหร่นัก ตรง Ear-Cup หรือส่วนที่สัมผัสกับหูเราก็บุด้วยกำมะหยี่ ใครที่ไม่ชอบพวกหนังทั้งหนังแท้และหนังเทียมก็สบายใจได้ รุ่นนี้ใส่แล้วสบายหูไม่ชุ่มเหงื่ออย่างแน่นอน
นอกจากนี้ในส่วนของด้านบนหูฟังที่จะสัมผัสกับกลางหัวของเราก็ยังเป็นกำมะหยี่อีก ทำให้รู้สึกสวมใส่สบายไม่เจ็บหัวมากเกินไป สำหรับใครที่ชอบใส่หูฟังเล่นเกมนานๆ ก็น่าจะชอบในจุดนี้กันมาก
สำหรับใครที่ชอบใช้ไมโครโฟนสำหรับเล่นเกมก็หายห่วงครับ ตัวไมโครโฟนนั้นให้เสียงที่ดังฟังชัด จับเสียงพูดได้ชัดเจน ป้องกันเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกคำพูดจะส่งไปถึงเพื่อนร่วมทีมได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ และมันยังทำการเปิดปิดตัวเองอัตโนมัติเพียงคุณพับเก็บ ตัวหูฟังก็จะทำการปิดไมโครโฟนให้เอง ไม่ต้องมาคอยกดสวิตช์ปิด/เปิดให้เมื่อยตุ้ม หรืออาการพูดไปยาวนานแต่ลืมไปว่ายังไม่ได้เปิดไมค์ก็จะหายไป
นอกจากดีไซน์ที่ดูเท่เข้มขรึมในแบบเกมเมอร์สาย Minimal และตัวไมโครโฟนที่จับคุณภาพเสียงได้เป็นอย่างดี ตัว Volume Control ก็เฟี้ยวไม่แพ้กันโดยจะอยู่ทางด้านขวาของหูฟัง หมุนๆ จับๆ ก็ปรับระดับเสียงได้ค่อนข้างละเอียดและใช้งานสะดวกมากๆ จากที่ลองใช้งานหลายสิบชั่วโมงยังไม่มีอาการติดขัดให้น่ารำคาญใจ คุณภาพระดับ Sennheiser ก็แบบนี้
ตัวหูฟังสามารถปรับระดับให้เหมาะกับหัวของเราได้และในส่วนของ ear-cup (ถ้าผมเรียกผิดก็ขออภัยด้วยครับ) ก็ปรับเข้าออกได้ตามสรีระของเรา เรียกว่าใส่แล้วไม่บีบหู ไม่บีบขาแว่นอย่างแน่นอน
คุณภาพเสียงที่ลงตัว
มาพูดถึงส่วนสำคัญกันบ้าง คุณภาพเสียงบอกเลยว่าใสมากกกกกกกก เสียงออกกลางแต่ยังมีเบสหนึบๆ ให้ได้ฟังกัน รายละเอียดเสียงทำออกมาได้ดีงามพระรามแปด ใจพี่นี้แสนซึ้งคะนึงหา ขอขอบคุณเบื้องฟ้าที่ส่งมา ให้เวลาสองเราได้ใกล้กัน
จากที่ได้ลองกับเกม Battlefield 1 , GRID 2, Counter Strike: Global Offensive และเกมอื่นๆ บอกเลยว่าคุณภาพเสียงมาเต็ม แบ่งแยกทิศทางของเสียงได้เป็นอย่างดี ไม่อายพวกหูฟัง 5.1 หรือ 7.1 เลยแม้แต่น้อย จะซ้ายขวาหน้าหลัง เสียงออกค่อนข้างชัดเจน และที่สำคัญเก็บเสียงรบกวนภายนอกได้ดีมาก แค่สวมใส่ก็เงียบไปแล้ว 80% พอเปิดเกมก็จะได้ยินเฉพาะเสียงในเกมไปเลย จุดนี้ถือว่าน่าประทับใจมากๆ
สำหรับการฟังเพลงหรือดูหนังนั้นก็สามารถใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน หากคุณเป็นคนที่ชอบเสียงกลาง ฟังเพลงรักใสๆ อคูสติคสบายๆ รุ่นนี้ก็เป็นอะไรที่เข้าท่า แต่หากคุณชอบเบสหนักกระแทกกระทั้นเหมือนยืนอยู่หน้าดอกลำโพงในงานเทศกาลชาวร็อค อาจจะต้องทำใจสักนิดนึงครับ แต่ไม่ใช่ว่าเบสไม่เข้มเลยนะ เบสยังมาอยู่ครับเพียงแต่ว่าไม่ได้เน้นหนักสำหรับชาวร็อคขนาดนั้น อันนี้เป็นเรื่องของสไตล์ที่แต่ละคนชื่นชอบไม่แพ้กันนั่นเอง
ควรซื้อ Sennheiser G4ME ONE มั้ย ?
ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวสำหรับเจ้า Sennheiser G4ME ONE เลยก็คือเรื่องของราคาครับ ปัจจุบันราคาอยู่ที่ประมาณ 8,000 – 9,000 บาท โดยราคาที่ว่านั้นค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหูฟังสำหรับการเล่นเกมรุ่นดังจากแบรนด์อื่นๆ
แต่แน่นอนว่าในราคาที่เสียไปนั้นแลกมาด้วยคุณภาพเสียงที่ดี ความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่ได้รับที่ดีกว่ามาก อย่างที่หลายคนรู้กันว่า Sennheiser มีหูฟังที่ราคาค่อนข้างสูงกว่าปกติ แต่ถ้าใครไม่ติดเรื่องราคาขอให้ซื้อเลยครับ ผมนี่ถูกใจจนติดงอมแงมเลยทีเดียว
สรุป
ข้อดี
- เสียงดีมาก
- Ear-Cup กำมะหยี่ใส่สบาย
- ป้องกันเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม
- ไมโครโฟนเสียงดังฟังชัด
- ดีไซน์ภายนอกหรูหรา เรียบง่าย แต่เท่และดูทรงพลัง
- เติมเต็มประสบการณ์การเล่นเกมได้เต็มที่
- สวมใส่สบาย
ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างสูง
- ตำแหน่งไมโครโฟนเมื่อดึงออกมาจนสุดตรงกับตำแหน่งลมหายใจของผู้ใช้งาน