Review : Grand Theft Auto V

โจรปล้นใจ กับรีวิวเกมโจรๆเน้นปล้นๆแบบใจๆ โจรเล่นเกมโจรแล้วรู้สึกไง ไปดู

Grand Theft Auto V : ปล้นสนั่น ล่าถล่มเมือง

คงเป็นเรื่องน่าเบื่อที่ผมจะมามัวเท้าความถึง GTA ภาคเก่าก่อนที่จะเกริ่นนำไปสู่ภาคล่าสุด(แน่ละครับ เขียนรีวิวมาเกือบร้อยชิ้น ขึ้นต้นเหมือนกันเกือบทุกครั้งมันก็เบื่อเป็นนะเฮ้ย) ดังนั้นแล้วเพื่อไม่ให้เปลืองตัวอักษรไปมากกว่านี้ ผมขอเข้าสู่เนื้อหาเลยละกัน

ครับ เกมนี้เป็นสุดยอดของ Open World ครับ ต้องเล่นครับ เพราะมันสุดยอดครับ จบ!!

ถุย!! ไม่ใช่ละ ถ้าจะมารีวิวแค่นี้มึงกลับไปขายเต้าฮวยดีกว่า ฮึ่ยย

เอาล่ะ เข้าเรื่องกันดีกว่า กับรีวิวเกมโฉดโคตรอันตรายแห่งปี Grand Theft Auto V!!

Welcome to Los Santos

ส่วนใหญ่ทุกคนย่อมต้องรู้จักเมือง Los Santos กันมาก่อนหน้านี้จากภาค San Andreas กันอยู่แล้ว ภาคนี้พาคุณกลับมายังแดนสวรรค์อันฟุ้งเฟ้อแห่งนี้อีกครั้งด้วยกราฟฟิกที่สวยงามและพื้นที่ที่กว้างขึ้นกว่าภาคเก่าอย่างที่เปรียบกันไม่ได้ รังสรรค์ความสวยงามกันเต็มที่ ทั้งแสงสีในเมืองที่ไม่เคยหลับใหล ป่าสนบนภูเขาอันแสนลึกลับ ทะเลทรายอันรกร้าง และผืนมหาสมุทรที่ลึกจนยากหยั่งถึง ซึ่งถ้าจะว่ากันตามตรงภาพที่รันออกมานั้นดรอปลงจากในตัวอย่างที่เคยปล่อยออกมาไปอยู่เหมือนกัน แต่โดยรวมแล้วก็ยังอยู่ในเกณฑ์สวยงามอยู่ดี

แค่มองดูรายละเอียดจากภาพนี้ ก็สามารถบอกได้ว่า เมืองนั้นกว้างใหญ่และรวยรายละเอียดขนาดไหน

และสำหรับบางท่านที่คิดว่า เปิดเกมมาตั้งแต่แรกจะถูกจำกัดพื้นที่โดนตามล่าถ้าหากลักไก่ไปพื้นที่อื่นๆก่อนรึเปล่า? ภาคนี้ไม่ต้องห่วงครับ คุณสามารถไปได้ “ทุกที่” ตั้งแต่จบภารกิจสาธิตกันเลย จะตะลุยยอดเขา Chilled Mountain หรือลุยทะเลทราย Sandy Shore หรือดำลึกลงไปในท้องทะเลอันกว้างใหญ่และท้องฟ้าอันกว้างไกล คุณทำได้เลยทันทีตั้งแต่เริ่มเกมครับ

ใต้ทะเลนับเป็นพื้นที่รูปแบบใหม่ของเกมนี้ มันทั้งกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยอันตราย

หรือถ้าใครมีเงินรวยล้นเหลือจนไม่รู้เอาไปใช้ทำอะไร คุณก็สามารถเอามันไปลงทุนกับหุ้น อสังหาริมทรัพย์ หรืออาวุธและรถหรูๆ แถมยังเอาไปปรับแต่งได้อย่างที่คุณต้องการได้อีกด้วย

ไฟฉายติดปืนเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่คุณสามารถติดตั้งลงบนอาวุธคู่ใจได้

Three Men Army

เป็นครั้งแรกของซีรีย์นี้ และอาจจะครั้งแรกของเกมแนว Open World ที่มีตัวละครหลักสำหรับดำเนินเรื่องถึงสามคนด้วยกัน

Michael อดีตจอมโจรนักปล้นที่เกษียณแล้ว แต่กำลังประสบปัญหาวิกฤติครอบครัวและภาวะวัยกลางคน จนต้องกลับมาสู่วงจรเดิมๆอีกครั้ง

Franklin เด็กแก็งค์ผู้อยากหนีจากชีวิตบัดซบเดิมๆที่มีแต่คนไม่ได้ความรายล้อมรอบตัวเขา จนได้มาพบกับ Michael

Travor ไอ้บ้าสติวิปลาส อดีตสหายของ Michael และเจ้าของ Travor Phillips Industries บริษัทค้ายาและค้าอาวุธที่ปกครองคนด้วยความกลัว ผู้ซึ่งไม่คิดมาก่อนว่า จะได้เจอเพื่อนเก่าอีกครั้ง

และแน่นอนว่าด้วยสไตล์ของ GTA ที่มีมาทุกภาค ทั้งสามคนต้องมาพบเจอกับสถานการณ์อันหลีกเลี่ยงไม่ได้ และนำพาพวกเขาไปสู่การเป็นตัวอันตรายที่สุดในเมืองไปแบบช่วยไม่ได้อยู่ร่ำไป

จะเอายังไง คุณจะไฝ่ว์กับผมงั้นเหรอ?

ทั้งสามคนมีความสามารถและค่าพลังที่แตกต่างกันออกไปและยังพัฒนาได้ถ้าทำสิ่งนั้นบ่อยๆเหมือนในภาค San Andreas ซึ่งความสามารถพิเศษของทั้งสามคนแม้จะไม่แปลกใหม่(เพราะคุณเคยเห็นมันจากเกมอื่นๆมาแล้ว) อย่าง Michael ที่มี Bullet Time ชะลอเวลาช่วยเล็งเป้าได้ง่ายขึ้น Franklin กับการหน่วงเวลาในการขับรถ เพื่อเข้าโค้งสวยๆกับเร่งแซงได้ชั่วอึดใจ และ Travor กับ Rage Mode ที่เพิ่มพลังโจมตีและความอึดแบบสุดๆ นับเป็นครั้งแรกของซีรีย์ที่ใส่ความสามารถพิเศษให้กับตัวละครเพื่อเสริมการเล่นให้ลึกขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

ขณะใช้ความสามารถของแต่ละตัวละคร แสงในเกมจะหรี่ลงแบบสวยๆ ช่วยเสริมอารมณ์ในการบวกได้ดีขึ้น

แน่นอนว่าด้วยการที่มีตัวเอกอยู่สามคน คุณจึงสามารถสลับสับเปลี่ยนไปเล่นเป็นใครก็ได้ระหว่างที่เดินเล่นอยู่ในเมือง หรือในภารกิจบางอย่างตามสถานการณ์ได้ ยกตัวอย่างเช่นภารกิจปล้นชิ้นหนึ่ง คุณให้ Michael และ Travor เป็นแนวหน้าในการขนย้ายเงินออกมาพร้อมกับลูกทีมอีกคนหนึ่ง หลังจากขนเงินออกมาจนหมดและผ่าด่านตำรวจหนีออกมา คุณก็เปลี่ยนมาบังคับ Franklin เพื่อขับรถมารับคนที่เหลือเผ่นไปยังจุดรวมพล ซึ่งการสับเปลี่ยนตัวระหว่างเล่นนั้นทำได้ลื่นไหลและง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแค่กดปุ่มลงบน D-Pad ค้างไว้แล้วเลือกตัวละครที่ต้องการเท่านั้น เลือกใครสักคนมาแก้สถานการณ์ได้เลยทันที

ตัวอย่างการเปลี่ยนตัวเล่นในเกม เอ๊ะ นายไปทำอะไรในนั้นน่ะเทรเวอร์?

การสับเปลี่ยนตัวละครสามารถทำได้อิสระเมื่อไม่ได้อยู่ในภารกิจ คุณจะได้เห็นตัวละครเหล่านั้นใช้ชีวิตเมื่อเราสับเปลี่ยนไปหาพวกเขา เช่นใช้ชีวิตกับครอบครัว ออกไปเที่ยวตามสถานบันเทิง หรือถูกตำรวจตามโจ้ยตูดอยู่ด้านหลัง มีเซอร์ไพรส์ทุกครั้งที่เปลี่ยนตัวเลยทีเดียว

Pimp my sidearm, Show off

นอกจากของใหม่อย่างเล่นพร้อมกันสามตัวแล้ว ในส่วนอื่นๆยังได้รับการปรับปรุงและเพิ่มเติมจากของเก่ามากมาย เช่นการแต่งยานพาหนะเสริมหล่อและประสิทธิภาพให้สูงขึ้น อาวุธคู่ใจที่ติดส่วนเสริมอย่างซองกระสุนขนาดใหญ่ ไฟฉาย หรือกระบอกเก็บเสียงได้เต็มที่ หรือถ้าคิดว่าเสื้อผ้าที่ใส่มันเชย สกปรก ก็ไปเลือกซื้อได้ใหม่ตามร้านค้าที่มีอยู่ทั่วทั้งเมือง เงินที่ได้รับจากภารกิจไม่มีเสียเปล่าแน่ๆ

ภารดรที่ว่าแน่ ยังแพ้ผมมาแล้ว

หรือถ้าเบื่อชอปปิ้ง ยังมีกิจกรรมมันส์ๆให้คุณทำอีกมากมาย จะไปดำน้ำ เล่นเทนนิส ขี่เจ็ตสกี ตีกอลฟ์ แข่งรถซิ่ง วิ่งไตรกีฬา ฝ่าอากาศดิ่งพสุธา แหวกว่ายสารน้ำ นำเครื่องบินขึ้นฟ้า ปาเป้า เข้าคลาสโยคะ และอื่นๆอีกมากที่บอกได้แค่ว่า “เยอะเนอะ” (“เยอะ” เสียงลึกลับเสียงหนึ่งแว่วมาตามลม)

Small Town, Big Job

ภารกิจหลักในเกมที่ถือว่าเป็นจุดเด่นสำคัญก็คือการวางแผนปล้นอย่างอุกอาจของตัวเอกทั้งสามนั้นเอง ไต่ระดับไปตั้งแต่ปล้นร้านเพชรที่ยังไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนา ไล่ไปจนถึงธนาคารหลวงของรัฐบาลที่เก็บทองคำเลอค่าเอาไว้ด้านใน ซึ่งการปล้นในแต่ละครั้งจะมีตัวเลือกแตกต่างกันออกไปสองแบบและเตรียมตัวไม่เหมือนกัน ซึ่งภารกิจเตรียมตัวนี้มันทำให้เราได้รู้สึกเหมือนมีส่วนร่วมในเกมมากขึ้น ไม่ใช่แค่ว่ารับงานมาแล้วทำไปให้จบไปอย่างเดียว และทุกภารกิจสามารถย้อนกลับมาเล่นใหม่ซ้ำได้อีกรอบ เพื่อเก็บคะแนนเต็ม 100% ได้อีกด้วย(แถมยังไม่ยากโหดแบบภาคเสริม Gay Tony อีกต่างหาก)

เลือกวาดแผนสำหรับการปล้นของคุณได้หลากหลายแบบ ตามแต่คุณจะเลือก

สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือการเลือกลูกทีม ลูกทีมที่มีความสามารถสูงจะทำพลาดน้อยลง แต่จะต้องการส่วนแบ่งมากขึ้น ถ้าหากยอมเสี่ยงแล้วเขาหรือเธอทำงานไม่พลาด ความสามารถของลูกทีมจะเพิ่มขึ้น และมีโอกาสพลาดน้อยลงในภารกิจหน้าที่คุณเรียกใช้บริการพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง โดยส่วนแบ่งยังเท่าเดิม

Run like a wind

ตำรวจเป็นศัตรูคู่บุญของ GTA มาตลอดทุกภาค จากภาคที่แล้วที่ปรับปรุงระบบการหนีให้เร้าใจมากขึ้นไปแล้ว ภาคนี้เร้าใจยิ่งกว่า จากที่ต้องหนีให้พ้นจากรัศมีการตามล่า กลายเป็นต้องสลัดให้พ้นระยะการมองเห็นของตำรวจให้พ้นในระยะเวลาหนึ่งตามจำนวนดาวที่มี ถ้าหากถูกพบตัวก็ต้องสลัดให้หลุดอีกครั้ง ซึ่งต้องบอกตามตรงว่าเหล่าตำรวจในภาคนี้เหมือนอัดยาม้ามาสักโหล เพราะขับรถไวเหลือเกิน เพียงแค่อึดใจเดียว คุณจะถูกชนดากจนแสบไปหมด ยิ่งถ้าขี่แมงกาไซด์แล้วล่ะก็ ถูกชนทีเดียวคุณก็สามารถกลับบ้านเก่าได้ทันที เพิ่มความน่ารำคาญและความลำบากให้กับคุณยิ่งกว่าเดิมแน่ๆ

ถ้าคุณแน่ อย่าแพ้หมาต๊า!!

หรือกระทั้งเด็กแก็งค์ในแหล่งเสื่อมโทรมก็อาจจะกลายมาเป็นศัตรูกับคุณก็ได้ ซึ่งเจ้าพวกนี้กัดไม่ปล่อยไม่แพ้หัวปิงปองเลยทีเดียว หรือจะชาวเมืองที่ตอบสนองต่อคุณแตกต่างกันออกไปและมีรายละเอียดมากกว่าเดิมมาก(แม้คุณจะเห็นหลายๆคนในเมืองเอาแต่ก้มหน้าก้มตาดูหน้าจอมือถือเหมือนโลกจริงก็ตาม) ด้วยรายละเอียดปลีกย่อยเหล่านี้ มันทำให้ Los Santos เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยลมหายใจและมีชีวิตชีวายิ่งกว่าเกมไหนๆที่เคยมีมาก่อนเลยจริงๆ

The Moment of Truth

แม้เกมการเล่นจะเรียกว่าแทบจะสมบรูณ์แบบ แต่ก็ยังมีบางจุดที่ชวนให้สะกิดใจอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นระบบการเล็งอาวุธบนยานพาหนะที่ยุ่งยากมากกว่าเดิม เนื้อเรื่องโดยภาพรวมที่ไม่ค่อยมีโมเมนต์น่าจดจำเท่าภาคก่อนๆ(แต่ตอนจบทั้งสามแบบทำออกมาได้ดีทั้งหมดและน่าสนใจ) ตัวเลือกปรับแต่งหลายๆอย่างน่าสนใจแต่ดันให้ใช้แค่ไม่กี่ครั้ง และที่สำคัญที่สุดคือศักยภาพอันจำกัดจำเขี่ยบนเครื่องคอนโซลที่ไม่สามารถประมวลผลกราฟฟิกในบางช่วงได้ทัน ทำให้ชนกับวัตถุล่องหนตรงหน้าในบางครั้ง และ Bug เล็กๆน้อยๆในเกมที่ปรากฏออกมาประปรายชวนให้รำคาญเล็กน้อย ทำให้รู้สึกสะดุดนิดหน่อยตอนกำลังมันส์ๆไปนิดนึง

ใจจริงแล้วผมอยากให้ภารกิจปล้นในเกมใส่ชุดนี้ออกลุยได้บ่อยๆหน่อย แต่ดันมีน้อยไปนิด

Los Santos Legend

แม้จะมีบางส่วนที่น่ารำคาญ แต่ GTA V ก็ยังเป็นเกมระดับ Masterpiece ที่คุณต้องเล่นโดยไร้ข้อกังขา มันเปิดกว้างอิสระยิ่งกว่าภาคที่ผ่านๆมา และภารกิจที่ทำให้คุณรู้สึกถึงการสวมบทเป็น “วายร้ายจอมโฉด” มากกว่าภาคก่อนๆ รวมถึงการปรับปรุงใส่ใจในทุกๆรายละละเอียดเท่าที่เวลาจะอำนวยให้ อาจจะฟังดูเกินจริง แต่ GTA V เป็นเกม Open World ที่ดีที่สุดที่ผมได้เล่นมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาจริงๆ นาย Xter Vendetta ได้โผล่งออกมาในรีวิวชิ้นก่อนหน้าแล้วว่า “จงซื้อ ยืม หรือขโมยเกมนี้มาเล่นซะ” ส่วนผมโจรปล้นใจ คงบอกได้แค่ว่า